(คลิปนี้มีซับไทย)
Dr. Andrew Kauffman, M.D. – นิติจิตแพทย์และพยานผู้เชี่ยวชาญปฏิเสธ “การแยก” ของโรคซาร์ส – โคฟ -2; เขาวิเคราะห์ทีละขั้นตอนของการอ้างสิทธิ์โดยทั่วไปของการแยกไวรัส ว่ายังไม่มีการพิสูจน์ว่ามีไวรัสอยู่จริง
ต่อไปนี้คือคำพูดของ David Icke (ที่เราแปลมาจากต้นฉบับ/คลิปด้านบน)
ผมวิเคราะห์ ทีละขั้นตอน เกี่ยวกับการอ้างอิงที่ว่า ไวรัสถูก Isolate แล้ว หรือ มีการแยกไวรัสออกมาแล้ว
“การแยกเชื้อ” หมายถึงไวรัสได้ถูกแยกออกจากสิ่งวัสดุรอบข้าง ดังนั้นนักวิจัยจึงสามารถพูดได้ว่า “ดูสิ เราได้มันมาแล้ว มันมีอยู่จริง”
ผมใช้ข้อความหนึ่งจากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ ที่แสดงถึง “วิธีการ” ที่นักวิจัยอธิบายว่าพวกเขา “แยกไวรัส” ได้อย่างไร ผมส่งไปให้ ดร. แอนดรูว์คอฟแมน [1] และเขาให้รายละเอียดการวิเคราะห์ของเขา
ผมพบงานวิจัยหลายชิ้นที่ใช้ภาษาคล้ายกันมากในการอธิบายว่า “ SARS-CoV-2 ถูกแยกได้อย่างไร” ตัวอย่างเช่น“ โคโรนาไวรัส 2 กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงจากผู้ป่วยโรคโคโรนาไวรัสสหรัฐอเมริกา (Emerging Infectious Diseases, Vol. 26, No. 6 – June 2020)” [2] ข้อมูลในเอกสาร [2] นี้เป็นข้อมูลทางการที่ CDC ทำการพิสูจน์ว่า ไวรัสมีอยู่จริง และวงการแพทย์ ทั่วโลกนำเอาข้อมูลนี้ไปใช้และเชื่อว่า มีไวรัสจริง
ก่อนอื่นผมต้องการให้ข้อมูลพื้นหลังเล็กน้อยที่จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในการศึกษาเหล่านี้
(ยกตัวอย่างเป็นซุป) นักวิจัยกำลังสร้างซุปในห้องแล็บ ซุปนี้มีสารประกอบหลายชนิด นักวิจัย (ที่อ้างว่าโควิดมีจริง) สันนิษฐานโดยไม่มีหลักฐานว่า “ไวรัส” อยู่ในซุปนี้ พวกเขาไม่เคยแยกไวรัสที่อ้าง ออกจากวัสดุรอบๆ ออกมาจากในซุป ไม่มีการแยกไวรัส
พวกเขาเริ่มแสดงให้เห็นว่าเซลล์ลิง (และ / หรือเซลล์ของมนุษย์) ที่พวกเขาใส่ลงไปในซุปกำลังจะตาย พวกเขาอ้างว่าการตายของเซลล์เหล่านี้เกิดจาก “ไวรัส” อย่างไรก็ตาม คุณกำลังจะเห็นการอธิบายข้อเทร็จอย่างละเอียดโดย ดร. คอฟแมน ว่า “ไม่มีเหตุผลที่จะสรุปได้ว่า ซาร์ส – โควี -2 อยู่ในซุปหรือว่ามันกำลังฆ่าเซลล์”
สุดท้ายนักวิจัยยืนยัน โดยไม่มีข้อพิสูจน์หรือคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผล ว่าพวกเขาสามารถค้นพบลำดับพันธุกรรม (genetic sequence) ของ “ไวรัส” ได้
ต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์ของ ดร. คอฟแมน กับการวิจัย [2] ที่อ้างว่า ไวรัสถูกแยก แล้ว
— เร่ิมการวิจัยและการวิเคราะห์ของ ดร. คอฟแมน –
ลิงค์การวิจัย(Emerging Infectious Diseases, Vol. 26, No. 6 – June 2020)
การวิจัย: “ เราใช้เซลล์ Vero CCL-81 สำหรับการแยกและ การเริ่มต้น…”
ดร. คอฟแมน: “เซลล์ Vero เป็นเซลล์แปลกปลอมจากไตของลิงและเป็นแหล่งที่มาของการปนเปื้อน อนุภาคของไวรัสควรได้รับการแยกออกให้บริสุทธิ์โดยตรงจากตัวอย่างในคลินิก เพื่อพิสูจน์ว่าไวรัสมีอยู่จริง การแยกตัวหมายถึงการแยกออกจากสิ่งอื่น แล้วคุณจะแยก/แยกไวรัสได้อย่างไร ในเมื่อคุณกำลังเพิ่มสิ่งอื่นลงไป?”
การวิจัย: “ …เราเพาะเลี้ยงเซลล์ Vero E6, Vero CCL-81, HUH 7.0, 293T, A549 และ EFKB3 ใน Dulbecco สื่อที่จำเป็นต่ำสุดที่สุดเท่าที่ทำได้ (DMEM) เสริมด้วย ความร้อน heat-inactivated fetal bovine เซรั่ม (5% หรือ 10%) …”
ดร. คอฟแมน: “ เหตุใดจึงต้องใช้ สื่อที่จำเป็นน้อยที่สุด ซึ่งให้สารอาหารที่ไม่ครบถ้วน [ไปยังเซลล์]? ซีรั่ม Fetal bovine เป็นแหล่งของสารพันธุกรรมแปลกปลอมและถุงนอกเซลล์ซึ่งแยกไม่ออกจากไวรัส”
การวิจัย: “ …เราใช้ตัวอย่างทั้ง NP และ OP swab ในการแยกไวรัส สำหรับการแยก – จำกัดการเจือจาง- และทางที่ 1 ของไวรัส เราปิเปต DMEM ที่ปราศจากซีรัม 50 ไมโครลิตรลงในคอลัมน์ 2 – 12 จาก 96- ของแผ่นเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จากนั้นปิเปตตัวอย่างทางคลินิก 100 ไมโครลิตรลงในคอลัมน์ 1 และทำการเจือจาง 2 รอบ”
ดร. คอฟแมน: “อีกครั้ง กับการใช้คำพูด การแยก ในทางที่ผิด”
การวิจัย: “ …จากนั้นเราผสม Trypsin ปล่อยเซลล์ Vero ใน DMEM ที่มีเซรั่ม วัวทารกในครรภ์ (fetal bovine) 10%, 2× penicillin / streptomycin, ยาปฏิชีวนะ / ยาต้านจุลชีพ และ 2x amphotericin B ที่ความเข้มข้น 2.5 × 105 เซลล์ / mL …”
ดร. คอฟแมน: “ ทริปซิน Trypsin เป็นเอนไซม์ตับอ่อนที่ย่อยโปรตีน มันจะไม่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์และอนุภาคในตัวอย่างที่มีโปรตีนบนพื้นผิวรวมถึงโปรตีนที่เรียกว่าสไปค์โปรตีน หรือ?”
ดร. คอฟแมน: “ ทำไมต้องเพิ่มยาปฏิชีวนะ? ใช้เทคนิคปลอดเชื้อในการเพาะเชื้อสิ แบคทีเรียสามารนถถูกกรองออกจากตัวอย่างทางคลินิกได้อย่างง่ายดายโดยตัวกรองที่มีจำหน่ายทั่วไป (GIBCO) [3] ในที่สุด คุณสามารถมองเห็นแบคทีเรียมองได้ง่ายภายใต้กล้องจุลทรรศน์และระบุได้ง่ายหากพวกมันปนเปื้อนในตัวอย่าง ยาปฏิชีวนะที่ถูกใช้เจาะจงคือ สเตรปโตมัยซิน และ แอมโฟเทอริซิน (หรือที่เรียกว่า ‘แอมโฟ – น่ากลัว’) streptomycin and amphotericin เป็นพิษต่อไตและเรากำลังใช้เซลล์ไตในการทดลองนี้! นอกจากนี้โปรดทราบว่าพวกเขาใช้ความเข้มข้นที่ “2X” สองเท่าของปริมาณปกติ สิ่งเหล่านี้จะสร้างความเสียหายให้กับเซลล์ Vero อย่างแน่นอน”
การศึกษา: “…เราได้เพิ่ม [ไม่ได้แยก] สารแขวนลอยของเซลล์ 100 ไมโครลิตรโดยตรงกับการเจือจางตัวอย่างทางคลินิก และ ผสมอย่างเบามือโดยการปิเปต จากนั้นเราได้เพาะเลี้ยงเชื้อในตู้อบอุณหภูมิ 37 ° C ที่มีความชื้น ในบรรยากาศ CO2 5% และสังเกตผลของ cytopathic (CPEs) ทุกวัน เราใช้การตรวจคราบจุลินทรีย์มาตรฐานสำหรับโรคซาร์ส – โควี -2 ซึ่งอ้างอิงจากโรคซาร์ส – โควีและโคโรนาไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) …”
การวิจัย: “ เมื่อพบ CPEs เราขูดโมโนเลย์ของเซลล์ด้วยด้านหลังของปลายปิเปต…”
ดร. คอฟแมน:“ ไม่มีการอธิบายการทดลองควบคุมเชิงลบ (negative control experiment) เพื่อการตีความผลลัพธ์ที่ถูกต้อง จำเป็นต้องมีการทดลองควบคุม หากไม่มีสิ่งนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ซุปที่เป็นพิษทำที่ให้เซลล์ถูกทำลายเกิดจาก ยาปฏิชีวนะ โภชนาการที่น้อยที่สุด เนื้อเยื่อที่กำลังจะตายจากคนป่วย หรือผีไวรัส การควบคุมที่เหมาะสมนั้น ประกอบด้วยการทดลองที่เหมือนกันยกเว้นว่าตัวอย่างทางคลินิกควรมาจากผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิดเช่นมะเร็งเนื่องจากจะไม่มีไวรัส”
การวิจัย: “…เราใช้ไลเซทของไวรัส 50 ไมโครลิตรสำหรับการสกัดกรดนิวคลีอิกทั้งหมดสำหรับการทดสอบเชิงยืนยัน และการจัดลำดับพันธุกรรม นอกจากนี้เรายังใช้ไวรัสไลเสต 50 μLในการฉีดวัคซีนของเพลท 24 หลุมที่มาบรรจบกันถึง 90%”
ดร. คอฟแมน: “ คุณจะยืนยันสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนได้อย่างไร? คุณเปรียบเทียบลำดับพันธุกรรมกับอะไร คุณรู้ที่มาของสารพันธุกรรมได้อย่างไร? เนื่องจากมันมาจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่มีวัสดุจาก มนุษย์ และ จุลินทรีย์ทั้งหมดของ วัวทารกในครรภ์ และ ลิง”
— จบการวิจัยและการวิเคราะห์ของ ดร. คอฟแมน –
ต่อไปนี้คือคำพูดของ David Icke
ความคิดเห็นของเรา: ดร. คอฟแมน ทำหลายอย่างที่นี่ เขาแสดงให้เห็นว่า การแยก ในความหมายของคำว่า “การแยก” นั้นไม่ได้เกิดขึ้น
ดร. คอฟแมน ยังแสดงให้เห็นว่านักวิจัยต้องการใช้ความเสียหายต่อเซลล์และการตายของเซลล์เพื่อพิสูจน์ว่า “ไวรัส” อยู่ในซุปที่พวกเขาสร้างขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง นักวิจัยกำลังสันนิษฐานว่าหากเซลล์กำลังตาย คงต้องเป็นไวรัสที่กำลังฆ่า ดร. คอฟแมน แสดงให้เห็นว่ามีสาเหตุอื่นๆ ที่ชัดเจนที่สามารถสร้างความเสียหายของเซลล์และการตายที่ไม่เกี่ยวข้องกับไวรัส ดังนั้นจึงไม่มีข้อพิสูจน์ว่ามี “ ไวรัส” อยู่ในซุปหรือมีอยู่ในโลกจริง
และสุดท้าย ดร. คอฟแมน อธิบายว่า การอ้างลำดับพันธุกรรมของ “ไวรัส” นั้น เป็นเรื่องไร้สาระเนื่องจากไม่มีข้อพิสูจน์ว่ามีไวรัสอยู่จริง คุณจะจัดลำดับบางสิ่งอย่างไร ในเมื่อคุณไม่ได้แสดงให้เห็นสิ่งนั้นมีอยู่
ผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับงานของผม (David Icke) (บทความมากกว่า 300 บทความเกี่ยวกับ “การระบาดใหญ่” ในช่วงปีที่ผ่านมา [4]) อาจถามว่าถ้าไม่มีไรรัส ทำไมคนถึงตาย? แล้วเคสและผู้เสียชีวิตจำนวนมหาศาลล่ะ? ผมได้ตอบคำถามเหล่านี้และคำถามอื่น ๆ โดยละเอียดแล้ว ในบทความอื่นๆ ของผม
หัวเรื่องของบทความนี้คือนักวิจัยพิสูจน์แล้วว่ามีโรคซาร์ส – โควี -2 หรือไม่?
คำตอบคือ ไม่
SOURCES:
- https://andrewkaufmanmd.com/
- https://wwwnc.cdc.gov/eid/article/26/6/20-0516_article
- https://www.thermofisher.com/us/en/home.html
- https://www.davidicke.com
การวิเคราะของ Dr. Tom Cowan และ Dr. Andrew Kaufman
คำแถลงเกี่ยวกับการแยกตัวไวรัสโดย DR ANDREW KAUFMAN, DR TOM COWAN และ SALLY FALLON MORELL, MA:
ดร. ทอม โคแวน ไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ของการแยกโควิด -19 ได้
Dr Mike Yeadon เรื่อง Covid 19
Dr. Andrew Kaufman อธิบายความเป็นได้ ที่มาของสิ่งที่ถูกอ่างว่าเป็นไวรัส
ไม่มีใครเสียชีวิตด้วยโควิด – Dr Stoian Alexov, President of the Bulgarian Pathology Association
[…] แต่ .. อย่างที่คุณจะเห็นหลักฐานจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกด้านล่าง Covid 19 ไม่มีอยู่จริง และคุณอาจตั้งคำถามเหมือนที่เราตั้งว่า คนป่วยหรือตายได้อย่างไร มันซับซ้อน คุณต้องเข้าใจก่อนว่า มันหมายความว่าอย่างไรเมื่อนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้พูดว่า “ไม่มีโควิด 19” อ่านในลิงก์ด้านล่าง Dr. Andrew Kauffman, M.D. – นิติจิตแพทย์และพยานผู้เชี่ยวชาญปฏิเสธ “การแยก” ของโรคซาร์ส – โคฟ -2; เขาวิเคราะห์ทีละขั้นตอนของการอ้างสิทธิ์โดยทั่วไปของการแยกไวรัส ว่ายังไม่มีการพิสูจน์ว่ามีไวรัสอยู่จริง อ่านบทความนี้ให้เข้าใจแล้วกลับมาที่หน้านี้ http://stopthaicontrol.com/แยกไวรัส/is-there-a-virus/ […]
[…] […]