ความลับของวัคซีน (ฉบับที่ 1)

12
49956

ก่อนที่จะพูดถึง ความลับของวัคซีน ผมขอแสดงสถิติบางอย่างที่สำคัญ และเกี่ยวข้องกันครับ

สถิติอัตราการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ (จากเว็บไซต์ของ WHO)

มาดูสถิติอย่างเป็นทางการจาก WHO สถิตินี้ได้รับการอธิบายโดย ดร. สุจริต ภักดี ในคลิปของท่านที่หน้านี้ การเสียชีวิตของผู้คนตามอายุมีดังต่อไปนี้

อายุ 0-20: อัตราการเสียชีวิตจากโควิด 0.002%
อายุ 21-49: อัตราการเสียชีวิต 0.02%
อายุ <70 ปี อัตราการเสียชีวิตเฉลียอยู่ที่ 0.05%
หากดูอัตราการเสียชีวิตถือว่าต่ำ หรือ อยู่ในเกนท์ปกติเมื่อเทียบกับโรคใกล้เคียงอื่นๆ

ที่มาของข้อมูล: สถิติจากเว็บไซต์ WHO https://www.who.int/bulletin/online_first/BLT.20.265892.pdf.

สถิติอัตราการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ (จากเว็บไซต์ของ CDC)

อายุ 0-14: อัตราการเสียชีวิตจากโควิด 0.0002%
อายุ 15-44: อัตราการเสียชีวิต 0.0069%
อายุ 45-64: อัตราการเสียชีวิต 0.0706%
อายุ 65-84 ปี:อัตราการเสียชีวิต 0.3703%
อายุ 85+: อัตราการเสียชีวิตเฉลียอยู่ที่ 1.7501%

ที่มาของข้อมูล: https://www.cdc.gov/nchs/nvss/vsrr/covid_weekly/index.htm#SexAndAge

วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดตาย
จากโควิดได้ 50-95% จริงหรือ?

อายุของผมอยู่ระหว่าง 15-44 โอกาสที่ผมจะเสียชีวิตจากโรคโควิดคือ 0.0069% เท่ากับอัตราการรอด = 99.9931%
รัฐอ้างว่าวัคซีนสามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดได้ ที่เพิ่มจะเพิ่มได้สักเท่าไหร่ครับ?

  • หากเพิ่ม 50% นั้นหมายถึง เพิ่มอัตราการรอดจาก 99.9931% เป็น 99.99655%
  • หากเพิ่ม 95% นั้นหมายถึง เพิ่มอัตราการรอดจาก 99.9931% เป็น 99.99966%

นั้นหมายความว่า วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดจากการตายจากโควิดเพียง 0.00345 – 0.00656%
ตัวเลข 50-95% ได้ถูกเอามาใช้ในทำนองให้ผู้คนเข้าใจผิดว่า หากฉีดแล้วจะมีอัตราการรอด 50-95%

[bctt tweet=”วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดจากการตายจากโควิดเพียง 0.00345 – 0.00656% ไม่ใช่ 50-95%” username=”AdithepChawla”]
  • เขากำลังให้เราไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคที่มีอัตราการตายเพียง 0.0069% (แล้วแต่อายุ)
  • โดยการเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการเป็น อัมพาต ความตาย ความพิการ และโรคอื่น ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
  • เพื่อเพิ่มอัตราการรอดระหว่าง 0.00345 – 0.00656%
  • (หากคุณคิดว่าผมคำนวนผิด หรือ แสดงข้อมูลที่ผิด ผมขอรบกวนคุณคอมเม้นท์ หรือ ติดต่อผม ผมจะทำการแก้ไขโดยด่วน ขอบคุณครับ)

ตามที่องค์การอาหารและยา (FDA) ระบุ รายชื่อของผลลัพธ์จากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น หรือที่เรียกว่าผลข้างเคียงจากวัคซีน ได้แก่ กลุ่มอาการ:
(รายการโรคต่างๆ นี้ ไม่ได้หมายความว่าฉีดแล้วจะเป็นนะครับ แต่หมายถึงว่ามีความเสี่ยงเพราะมีความเป็นไปได้ทางทฤษฎี และ ยังไม่ได้รับการพิสูจรน์โดยการทำการวิจัยว่าปลอกภัยจากสิ่งเหล่านี้) บางโรคเริ่มออกมาให้เห็นแล้วว่ากำลังเกิดขึ้นจริง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งถูกรายงานโดย CNN และ ยอมรับโดย CDC (อ่านได้ที่ ลิ้งค์นี้ นี้แหละที่เขาเรียกว่าหนูทดลอง ฉีกไป ศึกษาไป)

[bctt tweet=”รายชื่อโรคผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากวัคซีน: ” username=”AdithepChawla”]
  • โรคกระดูกสันหลังอักเสบ
  • โรคไข้สมองอักเสบ
  • กลุ่มอาการ กิลแลง-บาร์
  • โรคไข้สมองอักเสบเฉียบพลันที่แพร่กระจาย
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
  • แอนาฟิแล็กซิส
  • ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
  • ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
  • การแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย
  • โรคคาวาซากิ
  • อาการชัก
  • (กลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็ก) (MIS-C)
  • เสียชีวิต (อันนี้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับอื่นๆ)​
หากคุณสนใจความหมายและอาการของโรคเหล่านี้ คลิกที่นี้ เพื่อ ขยาย/ย่อ

ที่มาของข้อมูล:

โควิดอันตรายแค่ไหน?​

โควิด19 ไม่ได้อันตรายอย่างที่เรากลัวกัน โควิดมีอัตราการเสียชีวิตที่ใกล้เคียงหรืออยู่ราวๆ เดียวกันกับ ไข้วัดใหญ่ (ตามแพทย์หลายท่านในคลิป “แพทย์ทั่วโลกเตือนภัยวัคซีน”ด้านล่าง)

สาเหตุที่ผู้คนกลัวโควิดเป็นเพราะสื่อ เหตนี้ทำให้คนกลัวมากที่สุดจนยอมที่ไปฉีดวัคซีนที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทางวิทยาศาสต์

การให้เด็กไปเป็นหนูทดลองรับยาทดลอง เพราะ​ไวรัสที่มีอัตราการตายที่ 0.0002% มันคุ้มตรงไหน? รัฐ ได้พิจรณาข้อมูลเหล่านี้หรือไม่? ก่อนพลักดันให้ฉีดวัคซีน

[bctt tweet=”การให้เด็กไปเป็นหนูทดลองรับยาทดลอง เพราะ​ไวรัสที่มีอัตราการตายที่ 0.0002% มันคุ้มตรงไหน? รัฐ ได้พิจรณาข้อมูลเหล่านี้หรือไม่? ก่อนพลักดันให้ฉีดวัคซีน” username=”AdithepChawla”]

สื่อ…?

ในแต่ละปี มีผู้คนเสียชีวิตจาก อุบัติเหตุปีละ 1,350,000 คน = 3,698 คนต่อวัน หากสื่อเริ่มให้ดูข่าวการตายของคนเหล่านี้ ภาพน่ากลัวๆ ของสภาพรถ สภาพผู้ตาย ทุกวันๆ ครบทุกรายละเอียด เช่น รถตกสะพาน รถสวนกันชนเต็มแรง เด็กข้ามถนนโดนชน ทุกอย่าง แล้วออกทุกสื่อ ทุกโซเชี้ยล ทุกช่อง วิทยุ ข่าว หนังสือพิมพ์ ​ป้ายโฆษณาบนท้องถนน วันละ 24 ชม ทุกวัน เป็นเวลา 1 ปี คุณว่าผู้คนจะกลัวการออกจากบ้านหรือกล้าเข้าใกล้ถนนไหมครับ? นั้นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับโควิด เพราะตามข้อมูลทางการ อัตราการเสียชีวิตจากโควิต ใกล้เคียงกับไข้วัดใหญ่

ผมบอกได้เลย กฏข้อแรกในการเอาชีวิตรอดคือการหยุดเสพข่าว พวกเขาถูกควบคุมโดยคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีวาระส่วนตัวและไม่เห็นค่าของชีวิตมนุษย์ ทุกวันนี้คนแห่กันไปฉีดยาทดลอง ผมแทบไม่กล้าเปิดโซเชียลเลย เมื่อเห็นผู้คนยิ้มแย้มกันฉีดอะไรก็ไม่รู้เข้าร่างกายตัวเองแล้วลุ้นว่าจะรอดหรือไม่ มันไม่จบที่ระยะแรกนะครับ ระยะยาวล่ะ ไม่มีใครรู้เลยว่าอะไรสามารถเกิดขึ้นได้บ้าง

ทำไมพวกเขาต้องใส่แมสอ่านข่าว?​ มันคือเกมส์จิตวิทยาหรือไวรัสสามารถติดผ่าน ทีวีได้ หรือว่ามีสาเหตุอื่นครับ?

[bctt tweet=”โควิดไม่ได้น่ากลัวและมีอัตราการเสียชีวิตที่ใกล้เคียงหรืออยู่ราวๆ เดียวกันกับ ไข้วัดใหญ่ ” username=”AdithepChawla”]

การรายงานผู้บาดเจ็บ ได้รับผลข้างเคียง และ เสียชีวิต

รายงานดังต่อไปนี้เป็นข้อมูลโดย National Vaccine Information Centre และ MedAlert.org ที่รวบรวมข้อมูลมาจาก VAERS (ระบบรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีน)

ข้อมูลว่าระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2020 ถึง 26 มีนาคม 2021

มีการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งหมด 329,021 เคส

ที่มา: https://www.medalerts.org/vaersdb/findfield.php?TABLE=ON&GROUP1=CAT&EVENTS=ON&VAX=COVID19

ผู้เสียชีวิต 5,888 ราย ณ วันที่ 6 เมษายน 2021

ที่มา : https://www.medalerts.org/vaersdb/findfield.php?TABLE=ON&GROUP1=AGE&EVENTS=ON&VAX=COVID19&DIED=Yes
[bctt tweet=”ถึงวันที่ 6 เมษายน 2021 ผู้คนเสียชีวิตไปแล้ว 5,888 ราย จากการฉีดวัคซีน (ในสหรัฐฯ เท่านั้น)​ แล้วนี้วันที่เท่าไหร่ ทัวโลกมีกี่คนแล้วที่เสียชีวิต” username=”AdithepChawla”]

ผู้บาดเจ็บสาหัส 28,441 ราย ณ วันที่ 6 เมษายน 2021

ที่มา: https://www.medalerts.org/vaersdb/findfield.php?TABLE=ON&GROUP1=AGE&EVENTS=ON&VAX=COVID19&SERIOUS=ON
  • 28% เกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหลังการฉีดวัคซีน
  • 19% เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงและ
  • 43% ล้มป่วยภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับการฉีดวัคซีน

ที่มา Children’s Health Defense

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลข

  • ถึงวันนี้ 6 เมษายน 2021 เท่านั้น
  • เท่าที่ผมเข้าใจ VAER แสดงข้อมูลที่รวบรวมมาจากประเทศสหรัฐเท่านั้น ไม่รวมประเทศอื่นๆ
  • คุณเองก็สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลเหล่านี้ได้ที่ https://www.medalerts.org/vaersdb/index.php

แพทย์ทั่วโลกเตือนภัยวัคซีน (อ่านซับไทยใต้คลิป)

เรากำลังเร่งทำซับไทยคลิปนี้ ระหว่างนั้น คุณสามารถอ่าน สคริปต์ที่เราถอดและแปลเป็นภาษาไทยได้ที่นี้ครับ

ปุ่ม เปิด/ปิด แสดงซับไทย

ความลับของวัคซีน

คลิปต่อไปนี้ เป็นคลิปที่สำคัญที่สุด เราขอให้ทุกท่านชมคลิป แอนีเมชั่นนี้ https://childrenshealthdefense.org/covid-vaccine-secrets/resources

คุณสามารถชมคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ของท่าน อาจารย์​ ศาสตราจารย์ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ ผู้พิพากษา ทนาย นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ​ สื่ออิสระ นักวิจัย นักเขียน ที่ออกมาเตือนอย่างพร้อมเพรียงกัน ว่า วัคซีน ไม่ปลอดภัย ทั้งหมดได้ที่นี้ รวมถึงคลิปของ ท่าน ศาสตราจารย์ ดร. สุจริต ภักดี

เราทราบครับว่าคุณอาจได้อ่านข้อมูลจากผู้ที่พยายามทำให้ชื่อเสียงอาจารย์ เสื่อมเสีย ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการเซนเซอร์ที่ใช้หลักการทางจิตวิทยาให้เสียงของผู้รู้ความลับไปไม่ถึงประชาชน แต่ ศาสตราจารย์ ดร. สุจริต เป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งในเยอร์มัน และ อันดับต้นๆ ของโลก ในสาขาวิชานี้ ท่านเป็นครูที่สอนผู้คนทั้งหลายให้กลายเป็นแพทย์ได้ การเอาคำพูดมาบิดเบียนแล้วประจารท่านในที่สาธารณะ เป็นการไม่ให้เกียรติท่าน ทุกคนมีความสามารถในการคิด ใครก็ตามที่ได้ดูคลิปเต็มของท่าน สามารถคิดได้เองว่าสิ่งที่ท่านแสดงความกังวลนั้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และ ควรให้ความสำคัญหรือไม่

ท่านเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของทีมนักวิทยาศาสต์​ที่กำลังทำงานร่วมกับ Corona Investigative Committee ที่มี Dr. Reiner Fuellmich และทนายท่านอื่นๆ ที่รวบรวมหลักฐานฟ้อง WHO, FDA รัฐบาล และ แพทย์ต่างๆ ทั่วโลกที่ พลักดัน ยาฉีดทดลองนี้ ให้กับผู้คนในข้อหาผิดกฏ The Nuremberg Code (ปี 1947) ซึ่งประกอบด้วยหลักการสำคัญ 10 ข้อ ดังนี้ เราคัดลอกข้อแรกมาแสดงไว้ที่นี้:

ความยินยอมด้วยความสมัครใจของผู้รับการทดลองเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดซึ่งหมายความว่าผู้ให้การยินยอมต้องสามารถให้การยินยอมได้ตามกฎหมาย อยู่ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจได้อย่างอิสระ โดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ ทั้งโดยการใช้กำลัง การฉ้อโกง การหลอกลวง การข่มขู่ การเอาเปรียบหรือการบังคับขู่เข็ญทางอ้อม และต้องมีความรู้และความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆ อย่างเพียงพอจนสามารถตัดสินใจโดยความเข้าใจอย่างรู้แจ้ง โดยผู้เข้าร่วมวิจัย ควรได้ทราบถึงระยะเวลา วัตถุประสงค์ของการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย  ปัญหาและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบต่อสุขภาพหรือบุคคลที่อาจเกิดจากการเข้าร่วมการวิจัย ก่อนการตัดสินใจตอบรับการเข้าร่วมการวิจัย หน้าที่ และความรับผิดชอบของการประกันคุณภาพของการยินยอม  อยู่ที่บุคคลทุกคนที่ทำการริเริ่มอำนวยการหรือเกี่ยวข้องกับการทดลอง  โดยเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบส่วนบุคคลซึ่งจะถ่ายโอนให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ต้องรับโทษมิได้
— ขอบคุณ จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์

ยาฉีดทดลองโควิด 19 นี้ไม่ใช่วัคซีน และไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าหมอโซเชียลจะออกมาพูดว่ามันปลอดภัยกี่ล้านครั้งก็ตาม สมองผู้คนอาจถูกล้างได้ แต่ความจริงเปลี่ยนไม่ได้ พวกเขาใช้กฏหมายฉุกเฉินในการเปลี่ยนสถานะของยาตัวนี้ จากสถานะ การทดลอง มาเป็นวัคซีน แต่ทางการแพทย์และวิทยาศาสต์ มันยังคงเป็นสถานะการทดลอง ซึ่งผู้คนกำลังถูกทดลอง โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมตามย่อหน้าก่อนหน้านี้

ผมบอกได้เลย บุคคลที่กำลังสนับสนุนให้ประชาชนฉีด และ อ้างว่า “วัคซีนปลอดภัย” ผมขอแจ้งให้ท่านทราบว่า บัดนี้มีทนายความหลายพันคน หรือ อาจเป็นหลักหมื่นคน (ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก รวมทั้งในไทย) กำลังเก็บข้อความที่ท่านเอาลงโซเชียลหรือ อินเตอร์เน็ตเป็นหลักฐาน

ทนายความไทยท่านใดที่ต้องการรับข้อมูลหลักฐานที่พิสูจน์ถึงการหลอกลวงที่กำลังเกิดขึ้นลองติดต่อ Dr. Reiner Fuellmich ได้โคยตรงที่นี้ครับ (เว็บไซต์เป็นภาษาเยอร์มัน ใข้ Chrome เปิดแล้วใช้ Google Translate) เท่าที่ผมรู้พวกท่านทำการบ้านในการเตรียมหลักฐานไว้แล้วและพวกท่านยินดีแชร์ คุณสามารถชมรายละเอียดในเบื่องต้นได้ในบทสำภาดษ์ Crime Against Humanity

ใครก็ตามที่ยังมีความกังวลแต่ถูกกดดัน ผมขอแนะนำให้ท่านลองศึกษากฏหมายสากล Nuremberg ดูครับ คุณจะได้ทราบถึงสิทธิของคุณ ไม่มีใครสามารถบีบบังคับให้รับสิ่งนี้เข้าตัวคุณได้

รวมถึงบางบริษัทที่กดดันพนักงาน…ทั้งที่พนักงานยังคงมีความกังวล

ณ วันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ยังหลับอยู่และไม่ทราบถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่จำนวนผู้คนที่ตื่นขึ้นแล้วกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันๆ อย่างรวดเร็ว และพวกเขาจะไม่ยอมเมื่อรู้ว่า พวกเขา ครอบครัว ลูกหลาน สามีภรรยา ของพวกเขาได้ถูกฉีดยาทดลองที่ นักวิทยาศาสต์ทั่วโลกกำลังกังวลว่าอาจก่อให้เกิด Auto-Immune Disease ในฤดูหนาว ซึ่งผู้คนจะโดนไวรัสทั่วไปทางธรรมชาติที่ปกติแล้วร้างกายรับมือได้สบายๆ

หาก/เมื่อผู้คนเสียชีวิตลง พวกที่สร้าง (หรือพลักดัน) เรื่องหลอกลวงครั้งนี้ ก็จะโทษไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ผ่านสื่อหลักที่พวกเขาเป็นเจ้าของ

[bctt tweet=”โปรดช่วยกันหยุดการฉีดยาทดลองนี้โดยด่วน” username=”AdithepChawla”]

ที่มา: บทสัมภาษณ์ของ นักวิทยาศาสต์ แพทย์ ทนาย และผู้เชี่ยวชาญผู้ทรงเกียรติและที่พึงพาของชาวโลกทั้งหลาย
หมายเหตุ: ทุกข้อมูล/คำเขียนในบทความนี้สามารถหาใด้ในบทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ เราไม่ได้เป็นผู้ให้ความคิดส่วนตัว สิ่งเดียวที่เราแสดงข้อมูลให้เห็นในบทความนี้ คือการคำนวน ตัวเลข 0.00345 – 0.00656% ซึ่งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ระบุที่มาไว้แล้วเช่นกัน

คนไทยรู้ทันวัคซีน

Telegram:https://t.me/thailand_covid_vaccine_news

รับอีเมล์ เมื่อเราลงบทความใหม่

ฟากอีเมลล์ให้เราบันทึกไว้ และเราจะส่งเมล์แจ้งเตือนเมื่อลงบทความใหม่

ผู้คนกำลังตื่นขึ้นทั่วโลก… อย่างรวดเร็ว


บทความ | ข่าว | ข้อมูล ล่าสุด

เมื่อโควิดเริ่มระบาด กลุ่มแพทย์ และ นักวิทยาศาสต์ เริ่มออกมาเตือนผู้คนว่า โดวิดคือการหลอกลวง ต่อมาข้อมูล คลิป และ channel ของท่านเหล่านี้ เริ่มถูกลบออกจากโซเชียลทั้งหมด ผมจึงเริ่มสงสัยและตามเข้าไปในเว็บไซต์ส่วนตัวของพวกท่าน แล้วได้รับข้อมูลต่างๆ ที่ผมนำมาแชร์ให้คุณทราบ ผมไม่ใช่หมอ และเว็บไซต์นี้ไม่ใช่เว็บไซต์การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ผมเพียงแต่แสดงข้อมูล (และแปลข้อมูลเป็นภาษาไทย) ของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณรับข้อมูลที่กำลังถูกเซนเซอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณไปพิจรณาเอาเองว่า อะไรถูก อะไรผิด และ คุณควรทำอะไรซึ่งจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เรื่องนี้สำคัญ ผมไม่แบ่งปันข้อมูลเหล่านี้กับผู้อื่นไม่ได้ ผมจึงออกมาทำเว็บไซต์นี้ หากคุณคิดว่าคนไทยคนอื่นควรรับรู้ข้อมูลเหล่านี้ โปรดแชร์ครับ สุดท้าย ผมคิดว่าพวกเราต้องรักษาสิทธิ์ของเรา ไม่ให้มีการบังคับฉีดยาทางอ้อม ร่างกายของเรามีเพียงเราเท่านั้นมีสิทธิ์บนร่างกายนี้ ขอบคุณครับ

12 COMMENTS

  1. ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆครับ ผมติดตามเว็ปคุณตั้งแต่วันที่ 25/05 แต่เสียดายลิงค์นั้นหายไปหมด ผมเลยหาข้อมูลต่อเอง จนเจอลิงค์ที่แปะบนหน้า Twitter ของคุณ
    ทำให้เปิดโลกมาก ขอบคุณที่รวมข้อมูลและแปลให้นะครับ

  2. อยุ่ต่างประเทศค่ะ
    ส่วนตัวกังวลใจมากๆกับเรื่องนี้
    แต่ตอนนี้กระแสวัคซีนมาแรงมาก
    ดูเหมือนคนที่ไม่รับวัคซีนจะดูผิดแปลกไปซะงั้น
    ไม่กดดันค่ะยังคงยืนยันขอไม่รับ
    @ออสเตรีย
    ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับข้อมูลนี้
    🙏

    • จำนวนคนที่ไม่ต้องการรับวัคซีนเยอะกว่ามากครับ และจำนวนที่รับไปแล้วก็มีน้อยกว่าที่ข่าวให้ดู ถ้าทุกคนช่วยกันคนล่ะไม้คนละมือ เรื่องนี้ไม่ยากเกินไปครับ ขอบคุณเช่นกันครับ 🙏

  3. ต่อไป ถ้าไม่ฉีด เราก็จะเดินทางไปไหนลำบาก จะทำไงดี!!!

    • ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนครับ ในยุโรปกฏหมายนี้ไม่น่าจะผ่าน (แม้ว่าข่าวจะพูดอะไรก็ตาม)​เพราะผู้คนต่อต้านเยอะ ต้องช่วยกันเตือนคนที่ไม่รู้ครับว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น แล้วอีกอย่าง เท่าที่ผมพบข้อมูล บางสายการบินไม่แนะนำให้คนที่ฉีดบินเพราะไม่แน่ชัดว่า cabin pressure ที่ต่ำในเครื่องจะมีผลต่อเส้นเลือดในสมองที่วัคซีนเข้าไปทำลายหรือไม่

  4. พึ่งมาเจอเวบไซด์นี้ มีประโยชน์มาก ค่ะ ประชาชนส่วนมากไม่มีความรู้และถูกยัดเยียดความเชื่อและความกลัว ดิฉันอยู่เยอรมันนีทำงานเป็นพนักงานลูกจ้างร้านนวดต้องสัมผัสตัวลูกค้า ถ้าไม่ยอมรับวัคซีนเจ้าของร้านไม่ให้ทำงาน ต้องจำยอมรับวัคซีนของจอห์นสันไปเมื่อวันศุกร์ที่4มิถุนายน2564 ตอนนี้ยังไม่มีอาการข้างเคียง เหมือนถูกกฏหมายหรือกฏของสังคมบังคับทางอ้อม ถ้าไม่รับเหมือนตัวเราเป็นคนแปลกประหลาด และจะตกงาน เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการรับวัคซีน (จริงๆเป็นคนต่อต้านการรับวัคซีนค่ะ)

    • ขอบคุณมากครับคุณ​ Thippayaphat ที่แชร์ประสบการณ์ให้พวกเราครับ จริงมากครับ หากผู้คนเริ่มสังเกตเวลาที่หมอต่างๆ ออกมาทำคลิป ส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลที่ทำให้ผู้คนกลัวมากกว่า ข้อมูลที่เป็นแนววิจัย และ ที่มาที่ชัดเจน

  5. วัคซีนประเภทโปรตีนที่ได้จากพืชอันตรายต่อร่างกายของเราเหมือนกันไหมครับ

  6. ตอนนี้มีเรื่องของการใช้ยา ivermectin เพื่อรักษาและป้องกัน อย ไทยรีบออกมาแจ้งทันทีว่า เป็นข่าวปลอม ทั้งที่หลายประเทศกำลังพิจารณาเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนของเขา

    อนาคตช่างน่ากลัวและมืดมน เราอยู่ในโลกที่คุมด้วยบริษัทยายักษ์ใหญ่

    why do we need a vaccine when it’s treatable

    Remember the jews that were told ” walk that way to those buildings over there, take off your jewellery and leave your belongings in that pile, we are just going to shower you so you are all clean and eliminate head lice”
    They walked willingly.
    They closed the doors and then gassed them .
    Here we are again!!!

  7. […] สวัสดีครับ วันนี้ผมมีข่าวดีซึ่งก็คือ เราเริ่มเห็นแพทย์ไทยออกมาพูดความจริงมากขึ้นครับ ไม่ใช่เพียงแค่ใช้ความกลัวกดดันให้เราฉีดยาทดลอง อัตราการรอดของพวกเราอยู่ที่ 99.9% โดยรวมและ 99.999% หากคุณอายุน้อยกว่า 49ปี […]

Leave a reply

  • Default Comments (18)
  • Facebook Comments
Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.