วัคซีนแพร่กระจายตัวเอง

0
2840

วัคซีนแพร่กระจายตัวเองคืออะไร?​

นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาเทคโนโลยีวัคซีนชนิดหนึ่งขึ้นมา เรียกว่า Self Spreading Vaccine หรือ วัคซีนแพร่กระจายตัวเอง ที่แพร่กระจายเหมือนโรค ผู้ที่ฉีดจะเริ่มแพร่สิ่งนั้นเหมือนที่ผู้ป่วยรับเชื่อโรคแล้วแพร่ออกไปให้ผู้อื่นโดยที่ไม่รู้ตัว เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่ได้รับการพัฒนามานานแล้ว สิ่งนี้ฟังดูดีเพราะคนที่ได้รับการป้องกันจะเป็นผู้ป้องกันคนอื่น

ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีพัฒนาวัคซีนที่แพร่กระจายตัวเองแล้ว

อ่านเพิ่มเติม: https://www.newscientist.com/article/mg24732960-100-we-now-have-the-technology-to-develop-vaccines-that-spread-themselves/#ixzz73JDp7Ixs

วัคซีนโควิดใช้เทคโนโลยีนี้จริงหรือไม่?

ไฟเซอร์มีเอกสารเป็นทางการที่ยืนยันถึงการศึกษาเรื่องนี้ในวัคซีนโควิด19 เราได้แสดงเอกสารและแปลไว้ในบทความนี้ ไฟเซอร์ยังติดตามผลกระทบต่อ สตรีมีครรภ์ที่ใกล้ชิดหรือสัมผัสผู้ที่ฉีดวัคซีนอีกด้วย

เรื่องราวเป็นอย่างไร?​

หลายท่านคงทราบดีแล้วว่า ‘วัคซีนโควิด’ เป็นสาเหตุ ‘รอบเดือนผิดปกติ’ และ ‘การแท้งบุตร’ ในสตรีหลายท่าน ซึ่งเรื่องความผิดปกติของรอบเดือน มีสื่อทำข่าวให้ข้อมูลอยู่บ้าง ส่วนเรื่องการแท้งลูกส่วนใหญ่จะมีผลวิจัยแต่ไม่เป็นข่าว

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นเมื่อสตรีจำนวนมากเริ่มมีอาการประจำเดือนผิดปกติ หลังจากใกล้ชิด กับบุคคลที่ฉีดวัคซีน จึงเริ่มมีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุการเหล่านี้อาจเกิดจาก ‘การสัมผัสทางผิวหนัง’ และ ‘การหายใจผ่านอากาศเดียวกัน’ เรากำลังพูดถึงสตรีที่ไม่ใด้ฉีดที่สัมผัสกับคนที่ฉีด

ผู้หญิงหลายพันคนรายงานว่า พวกเขามีเลือดออกผิดปกติหลังจากได้รับวัคซีน mRNA และเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ อีกหลายพันคนรายงานการสูญเสียทารกในครรภ์ จนถึงขณะนี้เรายังเห็นคำให้การหลายร้อยฉบับจากผู้หญิงที่อ้างว่าสูญเสียทารกในครรภ์ หรือมีเลือดออกผิดปกติ หลังจากอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ที่ได้รับวัคซีน mRNA

ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่ไหม? แต่เอกสารของไฟเซอร์ ที่เราจะนำเสนอในบทความนี้ ยืนยันว่ารายงานเหล่านี้ล้วนเป็นความจริง

ดร. นาโอมิ วูลฟ์ นักเขียนและนักข่าวชาวอเมริกัน ได้แสดงความเห็นบน Twitter อย่างมากเกี่ยวกับหัวข้อนี้ และย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2021 เธอได้โพสต์ลิงก์ไปยังหน้า Facebook ซึ่งมีบัญชีหลายร้อยบัญชีจากผู้หญิงที่รายงานว่าเลือดออกผิดปกติหลังจากรับวัคซีนโควิดหรืออยู่ร่วมกับผู้ที่เคยฉีดวัคซีนโควิด

นักข่าว ABC7, Kate Larsen ยังตั้งคำถามว่าการรับวัคซีน ส่งผลต่อรอบเดือนของผู้หญิงอย่างไร ซึ่งได้รับการตอบรับนับพันจากผู้หญิงที่เกี่ยวข้อง

ที่มา – https://abc7news.com/covid-vaccine-and-menstrual-cycle-side-effects-women-coronavirus-period/1055164

แปลภาพบนเป็นไทย

“ฉันได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครั้งแรกในเดือนมกราคม ตามด้วยครั้งที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์ และตั้งแต่นั้นมาฉันก็มีเลือดออกเป็นก้อน เดือนเมษายนนี้เป็นเดือนที่หนักที่สุด”
“ฉันคิดว่าฉันกำลังจะบ้า และถึงกับไปพบแพทย์และเปลี่ยน BC ของฉันออกเพราะตอนนี้อาการฉันหนักมากและมันก็ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว”
“ฉันได้รับวัคซีน Moderna ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นประจำเดือนขาดเป็นเวลา 3 เดือน พวกเขาทำการตรวจเลือดหลายครั้ง ทั้งทดสอบการตั้งครรภ์และอัลตราซาวนด์ แต่ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นในวันที่ 4 เมษายน ฉันมีประจำเดือนซึ่งมาหนักมากและเป็นตลอดในช่วง 22 วันที่ผ่านมา”

  • อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในบทความสตรี 4,000 คนรายงานปัญหาประจำเดือน หลังรับวัคซีน
  • เรายังทราบจากรายงานประจำสัปดาห์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิดที่รายงานไปยังโครงการบัตรเหลือง MHRA ว่าผู้หญิงกำลังจะเสียลูกหลังจากรับวัคซีนโควิด รายงานฉบับที่ 13 ซึ่งรวมข้อมูลที่ป้อนจนถึงวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2564 ถือเป็นที่เรื่องที่น่าเศร้า เนื่องจากจำนวนผู้หญิงที่รายงานการเสียชีวิตของทารกหลังได้รับวัคซีนโควิด มากถึง 100 ราย

    ด้วยการรายงานเช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งและเกี่ยวข้องกับการค้นพบที่ซ่อนอยู่ในเอกสารของไฟเซอร์ เอกสารนี้มีหัวข้อชื่อว่า:

    A PHASE 1/2/3, PLACEBO-CONTROLLED, RANDOMIZED, OBSERVER-BLIND, DOSE-FINDING STUDY TO EVALUATE THE SAFETY, TOLERABILITY, IMMUNOGENICITY, AND EFFICACY OF SARS-COV-2 RNA VACCINE CANDIDATES AGAINST COVID-19 IN HEALTHY INDIVIDUALS
    แปลเป็นไทย
    การศึกษาระยะ 1/2/3 ที่ควบคุมด้วยยาหลอก สุ่มตัวอย่าง ศึกษาหาปริมาณยาเพื่อประเมินความปลอดภัย ความทนทาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัส RNA ซาร์ส-COV-2 ที่ต่อต้านเชื้อโควิด-19 ในผู้ที่มีสุขภาพดี
    ที่มา - https://cdn.pfizer.com/pfizercom/2020-11/C4591001_Clinical_Protocol_Nov2020.pdf

    เป็นเอกสารทั้งส่วนที่ครอบคลุมความเป็นไปได้ของ ‘การหลั่งของวัคซีน mRNA’ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าผู้ที่อยู่ใกล้ผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer mRNA จะประสบกับอาการไม่พึงประสงค์

    ข้อ 8.3.5 ของเอกสารอธิบายว่า

    สตรีที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ที่สัมผัสกับผู้รับวัคซีน Pfizer mRNA ให้รายงานไปยังผู้วิจัยทราบ ภายใน 24 ชั่วโมง

    เป็นเรื่องแปลกเพราะสตรีมีครรภ์/คุณแม่มือใหม่ ไม่ได้รับการฉีดยาการทดลองนี้ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาจากการอยู่ในสิ่งแวดล้อมของคนที่ฉีดได้อย่างไร?

    ไฟเซอร์ยืนยันว่า การติด/รับ (สิ่งที่อยู่ในวัคซีน) จากผู้ที่ฉีด ระหว่างตั้งครรภ์ อาจเกิดขึ้นได้ หากพบว่าผู้หญิงตั้งครรภ์อยู่ในสิ่งแสดล้อมรวมไปถึงสัมผัสกับบุคคลอื่นที่ได้รับวัคซีน หญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ที่ได้สัมผัสโดยการสูดดมหรือการสัมผัสทางผิวหนัง กับผู้ให้บริการด้านสุขภาพหรือหากสมาชิกในครอบครัวที่ได้รับวัคซีน บุคคลนั้นสามารถมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้

    ไฟเซอร์กำลังยอมรับในเอกสารนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะให้มนุษย์คนอื่นได้รับวัคซีน mRNA เพียงแค่หายใจผ่านอากาสเดียวกันหรือสัมผัสผิวหนังของผู้ที่ได้รับวัคซีน

    ไฟเซอร์ยังยืนยันว่าทารกจะได้รับวัคซีน mRNA ผ่านนมแม่ แม้ว่าแม่จะยังไม่ได้รับการฉีดไฟเซอร์ก็ตาม ซึ่งพบว่ามารดาที่อยู่ในช่วงการให้นมบุตร มีผลให้บุตร จากที่มารดาได้สูดดมหรือสัมผัสทางผิวหนัง กับผู้ที่ฉีด

    ไฟเซอร์ยังยืนยันว่าอาการไม่พึงประสงค์อาจเกิดขึ้นหลังจาก “การรับสัมผัสจากการทำงาน” เอกสารระบุว่าเมื่อบุคคลอื่นมีการติดต่อโดยตรงกับผู้ทีได้รับวัคซีน “มีโอกาสที่จะมีอาการไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน”

    แน่นอน กลุ่มเจ้าหน้าที่และสื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง FACT CHECK กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกล่าวหา คำให้การนับพันจากผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของวัคซีน ว่าเป็น “ผู้ต่อต้านวัคซีน Anti-Vaxxers” ซึ่งพวกเขาได้เขียนบท Full Fact กลุ่มเหล่านี้ล้วนได้รับทุนสนับสนุนเกือบทั้งหมดจาก Facebook

    สิ่งหนึ่งที่เว็บไซต์ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่ได้ระบุในรายงานของพวกเขา คือเอกสารที่เรานำเสนอในบทความนี้ซึ่งเป็นเอกสารทางการจากไฟเซอร์


    https://fyi.org.nz/ เป็นองค์การทางการที่ให้บริการประชาชนชาว นิว ซีแลนด์ ในการติดต่อหน่วยงานรัฐบาลของประเทศ นิวเพื่อรับข้อมูลอย่างเป็นทางการ ​ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าว NZ Heald

    Paul Jones (ประชาชน) ได้ร้องขอข้อมูลอย่างเป็นทางการนี้ไปยังกระทรวงสาธารณสุขประเทศ นิว ซีแลนด์​ ซึ่งมีเนื่อหาดังต่อไปนี้

    เรียน กระทรวงสาธารณสุข
    
    คุณช่วยจัดเตรียมเอกสารที่กระทรวงสาธารณสุขหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องมีในหัวข้อ "วัคซีนแพร่กระจายด้วยตนเอง" ได้หรือไม่
    
    "วัคซีนแพร่เชื้อด้วยตนเอง" คือวัคซีนที่กำหนดให้ใช้เฉพาะกับประชากรส่วนน้อย และผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจะหลั่ง/กระจายวัคซีนไปในชุมชน ตามที่อธิบายไว้ในบทความต่อไปนี้
    
    https://www.newscientist.com/article/mg24732960-100-we-now-have-the-technology-to-develop-vaccines-that-spread-themselves/
    
    เนื่องจากการฉีดวัคซีนในนิวซีแลนด์ต้องกรอกแบบฟอร์ม "ยินยอม" โปรดระบุด้วยว่าเทคโนโลยีการฉีดวัคซีนแบบแพร่กระจายด้วยตนเองนี้ถูกกฎหมายสำหรับใช้ในนิวซีแลนด์หรือไม่
    
    นอกจากนี้ คุณได้รับการรับรองอะไรจากไฟเซอร์ว่าการฉีดวัคซีน mRNA COVID-19 ของพวกเขาไม่มีเทคโนโลยี "การแพร่กระจายด้วยตนเอง"
    
    คุณได้รับการรับรองอะไรจากไฟเซอร์ว่าวัคซีน mRNA COVID-19 ของพวกเขาไม่หลั่งออกจากผู้ที่ได้รับวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น mRNA หรือโปรตีนสไปค์ที่ผลิตขึ้น?
    
    ขอแสดงความนับถือ
    
    พอล โจนส์

    ที่มา – https://fyi.org.nz/request/15329-self-spreading-vaccines

    กระทรวงได้ตอบกับโดยการปฏิเสษด้วยการตอบรับว่า

    กระทรวงสาธารณสุข (กระทรวง) ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ ภายในขอบเขตข้อมูลคำขอของคุณ
    ดังนั้นคำขอของคุณสำหรับข้อมูลนี้จึงถูกปฏิเสธภายใต้มาตรา 18(e) ของพระราชบัญญัติ

    ที่มา – https://fyi.org.nz/request/15329/response/57976/attach/4/OIA%20Response%205235.pdf

    โปรดสังเกตที่ว่า ทางกระทรวงไม่ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง

    บทความ / คลิป (ซับไทย) ล่าสุด

    1 COMMENT

    Leave a Reply to ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 2) | Stop Thai Control Cancel reply

    Please enter your comment!
    Please enter your name here

    This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.