ก่อนที่จะพูดถึง ความลับของวัคซีน ผมขอแสดงสถิติบางอย่างที่สำคัญ และเกี่ยวข้องกันครับ อัตราการเสียชีวิตจากไข้วัดใหญ่อยู่ที่ 0.1% เรามาดูกันครับว่า อัตราการเสียชีวิตของโควิดอยู่ที่เท่าไหร่
สถิติอัตราการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ (จากเว็บไซต์ของ WHO)
มาดูสถิติอย่างเป็นทางการจาก WHO สถิตินี้ได้รับการอธิบายโดย ดร. สุจริต ภักดี ในคลิปของท่านที่หน้านี้ การเสียชีวิตของผู้คนตามอายุมีดังต่อไปนี้
อายุ 0-20: อัตราการเสียชีวิตจากโควิด 0.002%
อายุ 21-49: อัตราการเสียชีวิต 0.02%
อายุ <70 ปี อัตราการเสียชีวิตเฉลียอยู่ที่ 0.05%
หากดูอัตราการเสียชีวิตถือว่าต่ำ หรือ อยู่ในเกนท์ปกติเมื่อเทียบกับโรคใกล้เคียงอื่นๆ
ที่มาของข้อมูล: สถิติจากเว็บไซต์ WHO https://www.who.int/bulletin/online_first/BLT.20.265892.pdf.
สถิติอัตราการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ (จากเว็บไซต์ของ CDC)
อายุ 0-14: อัตราการเสียชีวิตจากโควิด 0.0002%
อายุ 15-44: อัตราการเสียชีวิต 0.0069%
อายุ 45-64: อัตราการเสียชีวิต 0.0706%
อายุ 65-84 ปี:อัตราการเสียชีวิต 0.3703%
อายุ 85+: อัตราการเสียชีวิตเฉลียอยู่ที่ 1.7501%
ที่มาของข้อมูล: https://www.cdc.gov/nchs/nvss/vsrr/covid_weekly/index.htm#SexAndAge
วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดตาย
จากโควิดได้ 50-95% จริงหรือ?
อายุของผมอยู่ระหว่าง 15-44 โอกาสที่ผมจะเสียชีวิตจากโรคโควิดคือ 0.0069% เท่ากับอัตราการรอด = 99.9931%
รัฐอ้างว่าวัคซีนสามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดได้ ที่เพิ่มจะเพิ่มได้สักเท่าไหร่ครับ?
- หากเพิ่ม 50% นั้นหมายถึง เพิ่มอัตราการรอดจาก 99.9931% เป็น 99.99655%
- หากเพิ่ม 95% นั้นหมายถึง เพิ่มอัตราการรอดจาก 99.9931% เป็น 99.99966%
นั้นหมายความว่า วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดจากการตายจากโควิดเพียง 0.00345 – 0.00656%
ตัวเลข 50-95% ได้ถูกเอามาใช้ในทำนองให้ผู้คนเข้าใจผิดว่า หากฉีดแล้วจะมีอัตราการรอด 50-95%
วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดจากการตายจากโควิดเพียง 0.00345 – 0.00656% ไม่ใช่ 50-95%
ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลจากการเก็บสถิติจริงชึ้นให้เห็นว่า วัคซีนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสรอดจากการตายจากโควิดได้ 0.3
ที่มา –
- เขากำลังให้เราไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคที่มีอัตราการตายเพียง 0.0069% (แล้วแต่อายุ)
- โดยการเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการเป็น อัมพาต ความตาย ความพิการ และโรคอื่น ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
- เพื่อเพิ่มอัตราการรอดระหว่าง 0.00345 – 0.00656% หรือ 0.3%
- (หากคุณคิดว่าผมคำนวนผิด หรือ แสดงข้อมูลที่ผิด ผมขอรบกวนคุณคอมเม้นท์ หรือ ติดต่อผม ผมจะทำการแก้ไขครับ ขอบคุณครับ)
ตามที่องค์การอาหารและยา (FDA) ระบุ รายชื่อของผลลัพธ์จากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น หรือที่เรียกว่าผลข้างเคียงจากวัคซีน ได้แก่ กลุ่มอาการ:
รายชื่อโรคผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากวัคซีน:
- โรคกระดูกสันหลังอักเสบ
- โรคไข้สมองอักเสบ
- กลุ่มอาการ กิลแลง-บาร์
- โรคไข้สมองอักเสบเฉียบพลันที่แพร่กระจาย
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
- แอนาฟิแล็กซิส
- ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- การแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย
- โรคคาวาซากิ
- อาการชัก
- (กลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็ก) (MIS-C)
- เสียชีวิต (อันนี้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับอื่นๆ)
- Myelitis (โรคกระดูกสันหลังอักเสบ)
- คือการอักเสบของไขสันหลังซึ่งสามารถขัดขวางการตอบสนองจากสมองไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายและจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายไปยังสมอง การอักเสบของไขสันหลังอาจทำให้เยื่อไมอีลินและแอกซอนเสียหายได้ ส่งผลให้มีอาการต่างๆ เช่น อัมพาต และสูญเสียประสาทสัมผัส
- Encephalomyelitis (โรคไข้สมองอักเสบ)
- คือการอักเสบของสมองและไขสันหลัง
- Guillan-barre syndrome (กลุ่มอาการ กิลแลง-บาร์)
- เป็นโรคที่พบได้ยากซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีเส้นประสาท อาการอ่อนแรงและรู้สึกเสียวซ่าในแขนขามักเป็นอาการแรก ความรู้สึกเหล่านี้สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัมพาตในที่สุด)
- Transverse Myelitis (Myelitis ตามขวาง)
- เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของไขสันหลัง เป็นลักษณะอาการและสัญญาณของความผิดปกติของระบบประสาทและประสาทสัมผัสทั้งสองข้างของไขสันหลัง
- Acute disseminated encephalomyelitis (ADEM) (โรคไข้สมองอักเสบเฉียบพลันที่แพร่กระจาย)
- เป็นโรคทางระบบประสาทและภูมิคุ้มกันซึ่งการอักเสบอย่างกว้างขวางของสมองและไขสันหลังทำให้เนื้อเยื่อที่เรียกว่าสารสีขาว (White Matter) เสียหาย สารสีขาวคือเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยเส้นใยประสาท ซึ่งส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยไขมันและโปรตีนที่เรียกว่าไมอีลิน Myelin
- Encephalitis (โรคไข้สมองอักเสบ)
- Meningoencephalitis (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
- Meningitis (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
- คือการอักเสบ (บวม) ของเยื่อหุ้มที่ป้องกัน ปกคลุมสมองและไขสันหลัง
- Stroke (โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน)
- Convulsions / seizures (อาการชัก)
- Autoimmune disease (โรคแพ้ภูมิตัวเอง)
- Narcolepsy and cataplexy กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออ่อนแรงลงกะทันหัน อาการ: ล้มลงหรือสูญเสียการควบคุมการแสดงออกทางสีหน้า
- Anaphylaxis (แอนาฟิแล็กซิส)
- เป็นปฏิกิริยาการแพ้ที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ อาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาทีหลังจากสัมผัสกับสิ่งที่คุณแพ้ เช่น ถั่วลิสงหรือผึ้งต่อย
- Acute myocardia linfarction
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเป็นชื่อทางการแพทย์สำหรับอาการหัวใจวาย
- Myocarditis
- คือการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ (myocardium) โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจและระบบไฟฟ้าของหัวใจ ทำให้ความสามารถในการสูบฉีดของหัวใจลดลงและทำให้หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ (ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ)
- Deaths (เสียชีวิต)
- Thrombocytopenia (ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ)
- เป็นภาวะที่คุณมีเกล็ดเลือดต่ำ เกล็ดเลือด (thrombocytes) เป็นเซลล์เม็ดเลือดที่ไม่มีสีที่ช่วยให้ลิ่มเลือด เกล็ดเลือดหยุดเลือดโดยการจับตัวเป็นก้อนและก่อตัวเป็นปลั๊กในการบาดเจ็บของหลอดเลือด
- Disseminated intravascular coagulation (DIC) (การแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย)
- เป็นภาวะที่หายากแต่ร้ายแรงซึ่งทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดผิดปกติทั่วหลอดเลือดของร่างกาย กระบวนการแข็งตัวของเลือดตามปกติของร่างกายทำงานมากเกินไป
- Venous thromboembolism (VTE) (ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ) (VTE)
- เป็นโรคที่มีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกและเส้นเลือดอุดตันที่ปอด ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) เกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดก่อตัวในหลอดเลือดดำส่วนลึก ซึ่งมักเกิดขึ้นที่ขาส่วนล่าง ต้นขา หรือกระดูกเชิงกราน
- Kawasaki Disease (โรคคาวาซากิ)
- เป็นโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบ (บวมและแดง) ในหลอดเลือดทั่วร่างกาย มันเกิดขึ้นในสามขั้นตอนและอาการไข้มักเป็นสัญญาณแรก
- Multisystem inflammatory syndrome in children (MIS-C) (กลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็ก) (MIS-C)
- เป็นภาวะที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถเกิดการอักเสบได้ เช่น หัวใจ ปอด ไต สมอง ผิวหนัง ดวงตา หรืออวัยวะในทางเดินอาหาร
- และอื่นๆ
ที่มาของข้อมูล:
- https://www.lifesitenews.com/images/local/FDA_C19_vaccines.pdf
- https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/safety/myocarditis.html
- https://www.bmj.com/content/373/bmj.n1489
- https://www.ema.europa.eu/en/news/covid-19-vaccine-astrazeneca-benefits-still-outweigh-risks-despite-possible-link-rare-blood-clots
- https://www.tctmd.com/news/vte-risk-higher-after-oxfordastrazeneca-covid-19-vaccine-study-affirms
- https://www.bmj.com/content/373/bmj.n1114
- https://wwwnc.cdc.gov/eid/article/27/7/21-0594_article
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7904456/
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7901381/
- หมายเหตุ:
- เราใช้ Google Translate ในการแปลซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดได้
- การเฝ้าระวังความปลอดภัยของวัคซีน COVID-19 ของ FDA: รายการการทำงานของผลลัพธ์เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามที่มีการระบุในเว็บไซต์ซึ่งเป็นที่มาของข้อมูล ผมจึงระบุตามครับ
(รายการโรคต่างๆ นี้ ไม่ได้หมายความว่าฉีดแล้วจะเป็นนะครับ แต่หมายถึงว่ามีความเสี่ยงเพราะมีความเป็นไปได้ทางทฤษฎี และ ยังไม่ได้รับการพิสูจรน์โดยการทำการวิจัยว่าปลอกภัยจากสิ่งเหล่านี้) บางโรคเริ่มออกมาให้เห็นแล้วว่ากำลังเกิดขึ้นจริง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งถูกรายงานโดย CNN และ ยอมรับโดย CDC (อ่านได้ที่ ลิ้งค์นี้ นี้แหละครับที่เขาเรียกว่าหนูทดลอง ฉีดไป ศึกษาไป)
ล่าสุด CNN รายงานเป็นรอบที่สอง: FDA ออกมาเตือนประชาชนถึงการอักเสบของหัวใจจากวัคซีนโควิด เป็นเรื่องที่น่าสงดใจมากครับเพราะผู้ป่วยหลายคนที่ได้รับผลจากวัคซีนเป็นไวรุ่นอายุน้อย ทั้งที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต ทั้งๆ ที่คนอายุน้อยกว่า 25 ปีมีโอกาสเสียชีวิตจากการจมน้ำมากกว่าเสียชีวิตจากโควิต 50 เท่า
โควิดอันตรายแค่ไหน?
โควิด19 ไม่ได้อันตรายอย่างที่เรากลัวกัน โควิดมีอัตราการเสียชีวิตที่ใกล้เคียงหรืออยู่ราวๆ เดียวกันกับ ไข้วัดใหญ่ (ตามสถิติที่ออกมา)
สาเหตุที่ผู้คนกลัวโควิดเป็นเพราะสื่อ รัฐบาล และที่สำคัญ แพทย์ที่เน้นเรื่องจำนวนเตียง และ รูปภาพปอดมาให้คนดู จำนวนเตียงที่ไม่พอส่วนใหญ่มากจากเคสที่ PCR ให้ผลบวกเท็จ ซึ่งถึงทุกวันนี้ แพทย์ก็ยังคงใช้ค่า CT ที่สูงทำเกินกำหนด เหตุนี้ทำให้คนกลัวมากที่สุดจนยอมที่ไปฉีดวัคซีนที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทางวิทยาศาสต์ ไม่ใช่เพียงเท่านั้น ณ ตอนนี้กลับกายเป็นว่าวัคซีนอันตรายมากกว่าโควิด 6-8 เท่าด้วยซ้ำ – สรุปผลจากประเทศที่ฉีดแล้ว
การให้เด็กไปเป็นหนูทดลองรับยาทดลอง เพราะไวรัสที่มีอัตราการตายที่ 0.0002% มันคุ้มตรงไหน? รัฐ ได้พิจรณาข้อมูลเหล่านี้หรือไม่? ก่อนพลักดันให้ฉีดวัคซีน
[bctt tweet=”การให้เด็กไปเป็นหนูทดลองรับยาทดลอง เพราะไวรัสที่มีอัตราการตายที่ 0.0002% มันคุ้มตรงไหน? รัฐ ได้พิจรณาข้อมูลเหล่านี้หรือไม่? ก่อนพลักดันให้ฉีดวัคซีน” username=”AdithepChawla”]สื่อ…?
ในแต่ละปี มีผู้คนเสียชีวิตจาก อุบัติเหตุปีละ 1,350,000 คน = 3,698 คนต่อวัน หากสื่อเริ่มให้ดูข่าวการตายของคนเหล่านี้ ภาพน่ากลัวๆ ของสภาพรถ สภาพผู้ตาย ทุกวันๆ ครบทุกรายละเอียด เช่น รถตกสะพาน รถสวนกันชนเต็มแรง เด็กข้ามถนนโดนชน ทุกอย่าง แล้วออกทุกสื่อ ทุกโซเชี้ยล ทุกช่อง วิทยุ ข่าว หนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณาบนท้องถนน วันละ 24 ชม ทุกวัน เป็นเวลา 1 ปี คุณว่าผู้คนจะกลัวการออกจากบ้านหรือกล้าเข้าใกล้ถนนไหมครับ? นั้นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับโควิด เพราะตามข้อมูลทางการ อัตราการเสียชีวิตจากโควิต ใกล้เคียงกับไข้วัดใหญ่
มีแพทย์ท่านหนึ่งที่อ่านบทความของผมบอกผมว่า สาเหตุที่สื่อต้องออกข่าวบ่อยเพราะคนที่ประสบอุบัติเหตุไม่แพร่ความตายให้กับคนอื่น ส่วนตัวผมมองว่าเขารู้กันหมดแล้วครับว่าโควิดระบาด เรามาช่วยลดความกลัวเพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายที่พุ่งขึ้นทุกวันๆ และรักษาสุขภาพจิตให้ดีขึ้น น่าจะดีกว่าไหมครับ?
ผมบอกได้เลย กฏข้อแรกในการเอาชีวิตรอดคือการหยุดเสพข่าว พวกเขาถูกควบคุมโดยคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีวาระส่วนตัวและไม่เห็นค่าของชีวิตมนุษย์ ทุกวันนี้คนแห่กันไปฉีดยาทดลอง ผมแทบไม่กล้าเปิดโซเชียลเลย เมื่อเห็นผู้คนยิ้มแย้มกันฉีดอะไรก็ไม่รู้เข้าร่างกายตัวเองแล้วลุ้นว่าจะรอดหรือไม่ มันไม่จบที่ระยะแรกนะครับ ระยะยาวล่ะ ไม่มีใครรู้เลยว่าอะไรสามารถเกิดขึ้นได้บ้าง (อัพเดท – มีผลออกมาแล้วครับ )
ทำไมอ่านข่าวคนเดียวต้องใส่แมส? มันคือเกมส์จิตวิทยาหรือไวรัสสามารถติดผ่าน ทีวีได้ หรือว่ามีสาเหตุอื่นครับ?
การรายงานผู้บาดเจ็บ ได้รับผลข้างเคียง และ เสียชีวิต
รายงานดังต่อไปนี้เป็นข้อมูลโดย National Vaccine Information Centre และ MedAlert.org ที่รวบรวมข้อมูลมาจาก VAERS (ระบบรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีน)
ข้อมูลว่าระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2020 ถึง 23 กรกฎาคม 2021
มีการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งหมด 518,770 เคส
ผู้เสียชีวิต 11,940 ราย ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2021
ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงคือ 48,000 รายตามรายงานจาก Dr. Reiner Fuelmich ที่ออกมาแจ้งให้ผู้คนทราบว่ามีการแก้ไขตัวเลขบนเว็บ VAERS
วัคซีนนี้ไม่เคยมีการศึกษาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส
ดร. เชลลีย์ โคล – รองศาสตราจารย์ หัวหน้าโครงการ | สุขภาพประชากร ศูนย์วิจัยไพรเมตแห่งชาติตะวันตกเฉียงใต้ สถาบันวิจัยชีวการแพทย์เท็กซัส
ดร. โคล กล่าวต่อว่า “นี้มันไม่ใช่วัคซีน มันมีเพื่อลดอาการ ดังนั้น เมื่อคุณกำลังลดอาการให้น้อยที่สุด คุณต้องเปรียบเทียบกับยาอื่นๆ ที่ลดอาการ เช่น Tylenol เช่น Advil เช่น Hydroxychloroquine เช่น Ivermectin”
แต่ถูกกดโดยรัฐและแพทย์โดยการโจมตีว่ายาเหล่านั้นไม่ปลอดภัยบ้าง อะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ยาเหล่านี้ออกมาในท้องตลาดและถึงหูประชาชนได้ เพราะตามกฏหมายการฉีดวัคซีนฉุกเฉิน หากมียารักษาอยู่แล้ว กฏหมายฉบับนี้จะใช้ไม่ได้ทันทีและโครงการการฉีดวัคซีนจะต้องหยุดทันที
ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2021 ผู้คนเสียชีวิตไปแล้ว 11,940 ราย จากการฉีดวัคซีน (ในสหรัฐฯ เท่านั้น) ทั่วโลกมีกี่คนแล้วที่เสียชีวิต?”
ผู้บาดเจ็บสาหัส 63,102 ราย ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2021
- 28% เกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหลังการฉีดวัคซีน
- 19% เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงและ
- 43% ล้มป่วยภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับการฉีดวัคซีน
ที่มา Children’s Health Defense
ตัวเลขนี้เป็นตัวเลข
- ถึงวันนี้ 23 กรกฏาคม 2021 เท่านั้น
- เท่าที่ผมเข้าใจ VAER แสดงข้อมูลที่รวบรวมมาจากประเทศสหรัฐเท่านั้น ไม่รวมประเทศอื่นๆ
- คุณเองก็สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลเหล่านี้ได้ที่ https://www.medalerts.org/vaersdb/index.php
สิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดคือ…
- ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขในประเทศเดียวเท่านั้น บนโลกนี้เสียชีวิตด้วยวัคซีนแล้วกี่คน?
- มหาวิทยาลัยร่วมกับ Dr. ทำการวิจัยและพบว่า VAERS นั้นแสดงข้อมูลเพียงแค่ 1-10% ของตัวเลขจริง… คุณกำลังนึกภาพออกไหมครับว่า มันหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่า ตัวเลขที่ว่ามีคนเสียชีวิตด้วยวัคซีน 11,940 นั้น ตัวเลขจริงคือ 119,400 ทะลุแสนคนแล้ว และในสหรัฐฯ เท่านั้น เรากำลังถูกเซนเซอร์อย่างหนัก
ที่มา –
แพทย์ทั่วโลกเตือนภัยวัคซีน (อ่านซับไทยใต้คลิป)
คุณสามารถอ่าน สคริปต์ที่เราถอดและแปลเป็นภาษาไทยได้ที่นี้ครับ
ปุ่ม เปิด/ปิด แสดงซับไทยผมชื่อแอนดรูว์ คอฟแมน ผมเป็นแพทย์และจิตแพทย์นิติเวชที่ผ่านการรับรอง การระบาดใหญ่นี้ไม่ใช่โรคระบาดทางการแพทย์ที่แท้จริง วัคซีนโควิด-19 ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีเวลาเพียงพอ นอกจากนี้ ยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจนของโรคชนิดใหม่ที่สามารถทดสอบได้ ยังไม่มีไวรัสที่ได้รับการทำให้บริสุทธิ์ (แยกเชื้อ) หรือแสดงให้เห็นว่าเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย ดังนั้นจึงไม่มีเป้าหมายสำหรับวัคซีน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือเนื่องจากไม่มีการเสียชีวิตเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับโรคใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีวัคซีนใหม่
สวัสดี ดิฉันชื่อฮิลดา สมิธ ดิฉันเป็นแพทย์ชาวเบลเยี่ยม และดิฉันอยากจะบอกว่าวัคซีน COVID-19 ใหม่นั้นไม่ปลอดภัย และไม่มีการระบาดทางการแพทย์ทั่วโลก เป็นเวลาเกือบ 20 ปีที่อุตสาหกรรมยาพยายามพัฒนาวัคซีนโคโรน่า แต่ไม่เคยสำเร็จ เพราะพวกเขาเห็นในการทดลองในสัตว์ทดลองว่ามีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ความผิดปกติของภูมิต้านทาน เมื่อสัตว์ได้รับเชื้อไวรัสชนิดใหม่ ความผิดปกติของภูมิต้านทานเหล่านี้เปรียบได้กับภาวะแทรกซ้อนที่เราพบในผู้ป่วยโควิด-19 บางราย (ที่ได้รับวัคซีน) เนื่องจากข้ออ้างของการระบาดใหญ่ทั่วโลก อุตสาหกรรมยาจึงได้รับอนุญาตให้ข้ามการทดลองกับสัตว์ ซึ่งหมายความว่ามนุษย์เราจะเป็นหนูทดลองและเราอาจได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรง เมื่อเราสัมผัสกับไวรัสตัวจริง
ฉันชื่อ Nils F Rosse เป็นแพทย์ในเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ วัคซีนโควิด-19 ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มันเป็นเทคโนโลยีใหม่และผ่านการทดสอบกับคนไม่กี่พันคนในไม่กี่เดือน กรุณาทำวิจัยของคุณเอง นี่ไม่ใช่การระบาดใหญ่ทางการแพทย์ที่แท้จริง อัตราการเสียชีวิตในนอร์เวย์ไม่สูงกว่าปีเฉลี่ย
ดร.เอลิซาเบธ อีแวนส์ แพทย์ผู้เกษียณอายุและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรเสรีภาพทางการแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร วัคซีนโควิด-19 ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ เราเชื่อว่าสิ่งนี้คือการประมาทและไม่จำเป็นต้องมีวัคซีนทดลองเหล่านี้ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ใหม่ทั้งหมดให้กับผู้คนหลายล้านคน เมื่อมีข้อมูลด้านความปลอดภัยในระยะสั้นที่จำกัด ไม่มีหลักฐานว่าจะป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสและไม่มี ข้อมูลความปลอดภัยในระยะยาวเพื่อแยกแยะผลกระทบด้านลบที่เริ่มมีอาการ เช่น โรคภูมิต้านตนเอง ภาวะมีบุตรยาก และมะเร็ง
นี่คือ Dr. Mohamed Adel จากสหราชอาณาจักร ผมเป็นสมาชิกของ Royal College of Surgeons of UK และแพทย์ที่ปรึกษา ผมทำงานให้กับ National Health Services มา 30 ปีแล้ว แบบไร้ตำหนิ ผมเป็นประธานองค์กรการระดับโลก สมาคมการแพทย์ในสหราชอาณาจักร และเมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้พัฒนาพันธมิตรแพทย์ระดับโลกโดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกว่า 1,000 คนทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้ เรามีการสัมมนาผ่านเว็บที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งมีผู้คนนับล้านทั่วโลกเข้าชม ผมยืนเพื่อ มนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อ Coronavirus
แพทย์ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับโควิด-19 ในสื่อสาธารณะ เกี่ยวกับความจริง เกี่ยวกับโรคที่ถูกอ้างถึง และวัคซีน ซึ่งถูกแบน ในปีที่ผ่านมา ผมถูกกล่าวร้ายและโกหกถึง บนอาชีพ 50 ปีและชื่อเสียงถูกโจมตีโดยผู้ที่ส่งเสริมโรคระบาดที่ไม่เคยมีจริง รับวัคซีนที่ไม่จำเป็น กลโกง COVID-19 ทั้งหมดเป็นอย่างที่ผมพูดในเดือนมีนาคม 2020 ว่าเป็นเรื่องหลอกลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หลักการของความยินยอมหลังรับข้อมูลเป็นที่สุด แต่ขณะนี้ผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนไม่สามารถให้ความยินยอมได้เนื่องจากไม่ได้รับแจ้งข้อมูล ขอบคุณสวรรค์สำหรับเว็บไซต์เช่น Banned.com ซึ่งมีวิดีโอที่ไม่เซ็นเซอร์โดยแพทย์ที่ถูกเซ็นเซอร์ในที่อื่น
ดิฉันชื่อ ศาสตราจารย์ โดโลเรส เคฮิลล์ ดิฉันเป็นนักชีววิทยาระดับโมเลกุลและนักภูมิคุ้มกันวิทยา และเรามีข่าวดี ไวรัสโคโรน่าและการล็อกดาวน์ไม่รุนแรงอย่างที่ถูกบอก เรารู้ว่าเราสามารถรักษาอาการของ COVID-19 ได้สำเร็จด้วยวิตามินดีซีและสังกะสี และเป็นยาที่ปลอดภัยมาก ดังนั้นการล็อกดาวน์และมาตรการเช่น กักกัน Social Distancing และหน้ากากจึงไม่จำเป็น และวัคซีนก็ไม่จำเป็นเช่นกัน ไม่เคยมีวัคซีน RNA ที่ได้รับอนุญาต เพราะมีการทดลองทางคลินิกหลายครั้ง ในการศึกษาด้านความปลอดภัย มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่สำคัญ และในสัตว์ที่ใช้การศึกษาเหล่านี้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ฉันเป็นทันตแพทย์แบบองค์รวมและนักชีวจิต ฉันเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมแพทย์โลก ฉันเชื่อว่าโรคระบาดสิ้นสุดลงแล้วและเป็นเช่นนั้นในฤดูร้อน ฉันยังเชื่อมั่นอย่างแรงว่าไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในระยะยาวเกี่ยวกับวัคซีนโควิดใดๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขากำลังทดลองกับเราโดยพื้นฐานแล้วซึ่งขัดต่อประมวลกฎหมายนูเรมเบิร์ก ฉันจะไม่รับวัคซีน
สวัสดี ฉันชื่อ ดร.แอนนา ฟอร์บส์ ฉันเป็นแพทย์ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มพันธมิตรเสรีภาพทางการแพทย์ของสหราชอาณาจักร นี่คือกลุ่มแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ และนักกฎหมายที่กำลังเติบโต เราเชื่อว่ามีการประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขจากโรคซาร์สสูงเกินไป ในการบิดเบือนข้อมูลและการใช้การทดสอบ PCR อย่างไม่เหมาะสม เราเรียกร้องให้มีการรักษาความยินยอมโดยแจ้งข้อมูล ทางเลือกทางการแพทย์ และความเป็นอิสระของร่างกาย ในฐานะแพทย์ เราเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรักษา ขอขอบคุณคะ
ฉันชื่อ Ralph Sumburgh MD PhD อดีตรองศาสตราจารย์ด้านการผ่าตัดปลูกถ่ายที่สถาบัน Karolinska ความคิดเห็นของฉันเกี่ยวกับวิกฤตโคโรน่าไวรัส คือการทดสอบ PCR นั้นไม่ถูกต้อง อันที่จริงมันทำให้เกิดผลบวกที่ผิดมากมาย เพื่อทำให้เรากลัว และรับวัคซีน และฉันไม่เชื่อถือวัคซีนนี้
ฉันชื่อ Dr. Johann Dennis จากเบลเยียม วัคซีนโคโรน่าไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ ไม่มีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ มันเป็นโรคระบาดจอมปลอม ไวรัสโคโรน่าอยู่ในแง่ของอัตราการตายและการแพร่เชื้อที่เป็นอันตราย เทียบได้กับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และฉันได้แต่เพียงปฏิเสธมาตรการที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลของเราดำเนินการ ไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งหมดนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้คุณกลัวพอที่จะรับวัคซีน วัคซีนนี้ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัย มันได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนเราไม่รู้ว่าผลกระทบระยะยาวจะเป็นอย่างไร จำเป็นต้องมีการสอบสวนมากขึ้น สถานการณ์ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรือเป็นเหตุฉุกเฉิน วัคศีนอาจจะเปลี่ยน DNA ของคุณ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถย้อนกลับได้และไม่สามารถซ่อมแซมได้ สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งเป็นการทดลองกับมนุษยชาติ ฉันจะไม่มอบมันให้ตัวเอง คนไข้ หรือคนที่ฉันรัก เราไม่ใช่หนูทดลอง มีนาโนเทคโนโลยีอยู่ในวัคซีนนี้ นาโนบอทในไฮโดรเจลได้รับการพัฒนาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร มีข้อบ่งชี้ที่ที่มีความเป็นไปได้สูงว่า มันสามารถทำให้คุณเป็นหุ่นเชิดที่ควบคุมได้โดยใช้สมาร์ทโฟนของคุณเองที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย 5g และปัญญาประดิษฐ์ ด้วยวิธีนี้ คุณอาจสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้คุณเป็นมนุษย์ ดังนั้นโปรดแจ้งตัวเองให้ดีก่อนตัดสินใจ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากสามารถพบได้บนเว็บไซต์ของ Robert Kennedy www.ChildrensHealthDefense.org ฉันขออวยพรให้ทุกคน
สวัสดีฉันเป็นแพทย์ด้านไคโรแพรคติกจาก Turpin รัฐโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา นี่ไม่ใช่การแพร่ระบาดทางการแพทย์ที่แท้จริง ที่โลกกำลังยืนหยัดอยู่ในขณะนี้ วัคซีนยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ และจะไม่ฉีดและหรือแนะนำเพราะวัคซีนไม่ปลอดภัย
ฉันชื่อ มอริส วันเดอร์บอย ฉันทำงานเป็นนักข่าวในสาขาวิทยาศาสตร์และการแพทย์ และฉันมาจากประเทศเยอรมนี อย่าฉีดวัคซีนนี้ วัคซีนนี้เป็นอันตราย การระบาดครั้งนี้เป็นการฉ้อโกง
ฉันชื่อ แอนน์ ฟิดเลอร์เฟน ฉันเป็นแพทย์จากเบลเยียมที่เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อเรื้อรัง เช่น Lyme, epstein barr molds เป็นต้น วัคซีน COVID-19 ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ และฉันคิดว่ามัน เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ที่ความรับผิดชอบทั้งหมดได้รับการยกเว้นสำหรับบริษัทที่ผลิตมัน หากฟาร์มาไม่รับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่เขาผลิต พวกเขาจะคาดหวังให้แพทย์ฉีดยาให้ผู้ป่วยได้อย่างไร โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเกิดอันตราย เราเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่านี่ไม่ใช่การแพร่ระบาดทางการแพทย์ มาตรการสำหรับโคโรน่า ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าตัวไวรัสเอง ทั่วโลก เราพบว่ามีการนำเสนอจำนวนผู้ป่วยเท็จเพื่อผลักดันให้ประชากรมีพฤติกรรมเชื่อฟังและฉีดวัคซีน ดังนั้นโปรดวิจารณ์ ทำวิจัยของคุณเองและอย่าให้สื่อมาควบคุมคุณ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ต้องตอบโต้ ถึงเวลาที่จะยืนหยัดเพื่ออิสรภาพของคุณเพื่ออนาคตของลูกหลาน ของคุณ อย่ายอมแพ้ต่อความวิตกกังวล การแบ่งขั้ว การควบคุมของรัฐบาล และการจำกัดเสรีภาพของคุณ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ข้ออ้างเท็จของไวรัส เพราะนั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
สวัสดีครับ นี่คือ ดร.ทอม คาแวน และผมแค่อยากเตือนผู้คนว่าเราต้องจำไว้ว่าสุขภาพไม่ได้มาจากการฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายของเรา แต่มาจากการตัดสินใจเลือกความหมายของการเป็นมนุษย์และตามสิ่งนั้นด้วยสุดใจของคุณ
ฉันชื่อ ดร.เควิน โคลเบิร์ต พยาบาลวิชาชีพและนักวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพที่เกษียณอายุแล้วในสหราชอาณาจักร วัคซีนโควิดยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ โควิดไม่ใช่โรคระบาดทางการแพทย์ที่แท้จริง วัคซีนใช้ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์ที่จะเปลี่ยนแปลงยีนของคุณ ช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนของคุณ และก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่เป็นอันตรายได้ นักวิทยาศาสตร์จึงเรียกร้องให้หยุดฉีดวัคซีนโควิดทั้งหมดทันที โรคระบาดที่เกิดขึ้นปลอดจากเชื้อ มันเริ่มต้นในประเทศจีนและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านองค์การอนามัยโลก ความกลัวถูกเร่งโดยบริษัทที่สร้างรายได้จากการขายการทดสอบทางการแพทย์ที่มีข้อบกพร่องอย่างรวดเร็ว ยาต้านไวรัสที่เป็นพิษ และตอนนี้วัคซีนที่ไม่ได้รับการพิสูจน์และอาจเป็นอันตราย ข้อควรระวังมาตรฐานที่ปกติแล้วปกป้องสาธารณะนั้นถูกมองข้ามไปเพราะความไม่รู้ ความกลัวและผลกำไร ตัวอย่างเช่น วัคซีนยังไม่ผ่านการทดสอบระยะที่สามอย่างเหมาะสม การทดสอบโควิด, PCR มีข้อบกพร่องร้ายแรง บริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักรไม่เคยตรวจสอบด้วยวิธีมาตรฐาน และไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ คุณสามารถอ่านเกี่ยวกับข้อบกพร่องในการทดสอบ PCR ได้ที่ www.CormanDrostenReview.com
ฉันชื่อ Dr. Kerry MADI ฉันเป็นแพทย์อายุรกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกา ฉันเป็นเจ้าของคลินิกของตัวเอง และเคยเป็นผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของคลินิกสองแห่งที่แตกต่างกัน รวมถึงเป็นแพทย์ที่ดูแลนักศึกษาแพทย์ตลอด 19 ปีที่ผ่านมา ฉันมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าไม่มีการระบาดทั่วโลกสำหรับ COVID-19 เขากำลังใช้กลไกการทดสอบที่เรียกว่า PCR ซึ่งไม่เคยมีการระบุหรือสร้างขึ้นเพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อใดๆ นี่ไม่ใช่วิธีที่เราควรวินิจฉัย นอกจากนี้ โรงพยาบาลและแพทย์ยังได้รับแรงจูงใจทางการเงินในการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ยิ่งไปกว่านั้น เรามีข้อผิดพลาดในห้องแล็บหลายครั้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งแสดงผลบวกที่ผิดมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ฉันมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าฉันจะไม่รับวัคซีน COVID-19 และฉันจะไม่แนะนำวัคซีน COVID-19 ให้กับผู้ป่วยของฉัน วัคซีนนี้เป็นการทดลองในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะพวกเขาเสนอให้ใช้ RNA ที่ดัดแปลงหรือดัดแปลง DNA สังเคราะห์ให้กับร่างกายมนุษย์ นี่เป็นครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา นอกจากนี้ พวกเขากำลังเสนอให้ใช้เทคโนโลยีนาโนไลปิดหรือนาโนเทคโนโลยีบนเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วย มีสิ่งเลวร้ายมากมายที่สามารถเกิดขึ้นกับเราได้ และเราจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้ก่อนที่เราจะดำเนินการต่อ นี่คือการเตือนของฉันต่อโลก
ฉันชื่อ ดร.แบรร์ แลนโด ฉันได้เห็น..inaudible..ที่ได้รับวัคซีนจำนวนมาก เนื่องจากขาดการทดสอบที่เหมาะสมและเงื่อนไขหลอกลวงเกี่ยวกับ การระบาดใหญ่ ฉันขอ ตักเตือนทุกคนที่กำลังพิจารณารับวัคซีนโควิด-19
ฉันคือเคท เชมิรานี พยาบาลธรรมชาติในโลกที่เป็นพิษ ฉันเชื่อว่ามีโรคระบาดหรือไม่? ไม่อย่างแน่นอน. ไม่มีหลักฐานประกอบใดๆ ฉันเชื่อหรือไม่ว่าโควิด-19 มีจริง? ไม่อย่างแน่นอน. มันไม่เคยได้รับการพิสูจน์ ฉันเชื่อหรือไม่ว่าประชากรต้องการวัคซีนอันตราย โควิด 19 ตัวใหม่นี้? ไม่ได้มีการทำการทดลองด้านความปลอดภัย และเคยมีทำมาก่อนมั้ย? ไม่อย่างแน่นอน. ไม่มีใครจำเป็นต้องฉีดมัน ฉันเชื่อหรือไม่ว่ารัฐบาลของเราควรถูกจับในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์? แน่นอน
ฉันชื่อแซนดี้ ลูโน่ เภสัชกรที่เกษียณอายุและอาศัยอยู่ในนอร์เวย์ วัคซีนโควิด 19 ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ การมุ่งเน้นที่ความปลอดภัยของพวกเขา มีเพียงสองอย่างเท่านั้น วัคซีนมีความเสี่ยงต่อการแพ้ภูมิตัวเอง (ภูมิโจมตีตัวเอง) แทนที่จะป้องกันการติดเชื้อ วัคซีนสามารถทำให้โรคแย่ลงได้เมื่อผู้ที่ได้รับวัคซีนติดเชื้อไวรัสจริง ประการที่สอง ในสหราชอาณาจักร หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพได้ร้องขออย่างเร่งด่วน “MHRA แสวงหาเครื่องมือซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์อย่างเร่งด่วนเพื่อประมวลผลปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด-19 ในปริมาณสูงที่คาดหวัง”
ฉันชื่อบอริส ดรากิน และฉันเป็นนักฝังเข็มที่มีใบอนุญาตในสวีเดน ฉันเปิดคลินิกการแพทย์ส่วนตัวมานานกว่า 40 ปี โควิดระบาดครั้งนี้ไม่ใช่โรคระบาดจริง!! นี่คือการทำร้ายสิทธิมนุษยชน เสรีภาพของเรา และสังคมของเรา คุณจะต้องเพี้ยนมากที่ยอมรับยาฉีดทดลองที่ยังไม่ถูกทดสอบจากผู้ผลิตอาชญากร ที่ถูกเร่งรัดด้านความปลอดภัยและผลกำไรมหาศาลจากการกดดันให้ผู้คนรับวัคซีน คุณคิดว่ามีบริษัทประกันที่ไหนสักแห่งในโลกที่กล้าทำประกันวัคซีนดังกล่าวไหม? ให้ผู้นำของเราและผู้พลักดันอื่นๆ ทั้งหมดรับส่วนผสมที่เป็นพิษนี้เถอะ
ฉันชื่อปิโอเตอร์ รูบาส ฉันมาจากโปแลนด์ ฉันทำงานเป็นอายุรศาสตร์ในประเทศเยอรมนีขณะนี้ .. ฟังไม่ออก… ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะรับการฉีดยาด้วยการเตรียมการทดลองที่เรียกว่าวัคซีนโคโรน่า ประการแรก วัคซีนใหม่ทุกตัวต้องผ่านการทดลองทางคลินิกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี ประการที่สอง ทำไม่ฉันจะต้องเอาร่างกายของฉันไปรับแปลกปลอม เพราะไวรัส ที่มีอัตราการตายใกล้เคียงกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
วัคซีนโควิด-19 ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ นี้ไม่ใช่โรคระบาดจริงๆ
ผมอยากให้คุณจำไว้ว่าคุณ ทุกคน เป็นอิสระเป็นแสงสว่างสำหรับคนรอบข้างคุณ ดังนั้นจงยืนขึ้น ค้นหาต่อ พูดออกมาต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อลูก ๆ ของคุณ ให้บุตรหลานของคุณเห็นว่าการเป็นอิสระ มันหมายความว่าอย่างไร ให้บุตรหลานของคุณเป็นพยานในความกล้าหาญของคุณและคุณยินดีที่จะยืนขึ้นและทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณ
ปัญหาไม่ใช่หลักการของวัคซีน แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องการให้เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่จะพัฒนาวัคซีนใหม่ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีเพื่อต่อต้านโรคใหม่โดยใช้เทคโนโลยี สารเสริมใหม่ๆ และทำอย่างนั้น ในวงกว้างมาก ไม่ใช่แค่ประชากรเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน พวกเขาวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเกือบทุกคนบนโลก ใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวกับการวัคซีนทราบดีว่าต้องใช้เวลา เพื่อให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย และเข้าใจถึงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของเราอย่างเหมาะสม
ผมอยากให้คุณจำไว้ว่าคุณ ทุกคน เป็นอิสระเป็นแสงสว่างสำหรับคนรอบข้างคุณ ดังนั้นจงยืนขึ้น ค้นหาต่อ พูดออกมาต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อลูก ๆ ของคุณ ให้บุตรหลานของคุณเห็นว่าการเป็นอิสระ มันหมายความว่าอย่างไร ให้บุตรหลานของคุณเป็นพยานในความกล้าหาญของคุณและคุณยินดีที่จะยืนขึ้นและทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณ
ปัญหาไม่ใช่หลักการของวัคซีน แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องการให้เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่จะพัฒนาวัคซีนใหม่ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีเพื่อต่อต้านโรคใหม่โดยใช้เทคโนโลยี สารเสริมใหม่ๆ และทำอย่างนั้น ในวงกว้างมาก ไม่ใช่แค่ประชากรเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน พวกเขาวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเกือบทุกคนบนโลก ใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวกับการวัคซีนทราบดีว่าต้องใช้เวลา เพื่อให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย และเข้าใจถึงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของเราอย่างเหมาะสม
ผมอยากให้คุณจำไว้ว่าคุณ ทุกคน เป็นอิสระเป็นแสงสว่างสำหรับคนรอบข้างคุณ ดังนั้นจงยืนขึ้น ค้นหาต่อ พูดออกมาต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อลูก ๆ ของคุณ ให้บุตรหลานของคุณเห็นว่าการเป็นอิสระ มันหมายความว่าอย่างไร ให้บุตรหลานของคุณเป็นพยานในความกล้าหาญของคุณและคุณยินดีที่จะยืนขึ้นและทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณ
ปัญหาไม่ใช่หลักการของวัคซีน แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องการให้เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่จะพัฒนาวัคซีนใหม่ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีเพื่อต่อต้านโรคใหม่โดยใช้เทคโนโลยี สารเสริมใหม่ๆ และทำอย่างนั้น ในวงกว้างมาก ไม่ใช่แค่ประชากรเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน พวกเขาวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเกือบทุกคนบนโลก ใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวกับการวัคซีนทราบดีว่าต้องใช้เวลา เพื่อให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย และเข้าใจถึงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของเราอย่างเหมาะสม
ผมอยากให้คุณจำไว้ว่าคุณ ทุกคน เป็นอิสระเป็นแสงสว่างสำหรับคนรอบข้างคุณ ดังนั้นจงยืนขึ้น ค้นหาต่อ พูดออกมาต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อลูก ๆ ของคุณ ให้บุตรหลานของคุณเห็นว่าการเป็นอิสระ มันหมายความว่าอย่างไร ให้บุตรหลานของคุณเป็นพยานในความกล้าหาญของคุณและคุณยินดีที่จะยืนขึ้นและทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณ
ปัญหาไม่ใช่หลักการของวัคซีน แต่ปัญหาคือพวกเขาต้องการให้เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่จะพัฒนาวัคซีนใหม่ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีเพื่อต่อต้านโรคใหม่โดยใช้เทคโนโลยี สารเสริมใหม่ๆ และทำอย่างนั้น ในวงกว้างมาก ไม่ใช่แค่ประชากรเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน พวกเขาวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเกือบทุกคนบนโลก ใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวกับการวัคซีนทราบดีว่าต้องใช้เวลา เพื่อให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย และเข้าใจถึงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของเราอย่างเหมาะสม
ไม่มีการพิจารณาคดีในคณะกรรมการสุขภาพ ไม่มีการอภิปรายและไม่มีการแก้ไขใดๆ ก่อนการลงคะแนนครั้งนี้ ดังนั้น ”การป้องกันสุขภาพเด็ก” ในยุโรป จึงขอให้ยกเลิกการตัดสินใจนี้ในศาลยุติธรรมยุโรปในลักเซมเบิร์ก โปรดแบ่งปันข้อมูลนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่าวัคซีนป้องกันโควิดในปัจจุบันไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัย สมาชิกสภานิติบัญญัติละทิ้งหลักการความปลอดภัยโดยปิดตาเชื่อในการทดลองที่อันตราย
ผมชื่อ ไฮโก เซ็นทรัลแมน ผมเป็นแพทย์ชาวเยอรมัน ตอนนี้ทำงานที่นอร์เวย์ ผมได้ร่วมงานในวงการแพทย์แนวปฏิบัติทั่วไปมา 40 ปี ทำวิจัยมา 20 ปี และใน10 ปีที่ผ่านมา ทำเรื่องเรื่องวัคซีนโดยเฉพาะ ผมต้องขอบอกเลยว่านี่ไม่ใช่โรคระบาดทางการแพทย์จริงๆ และวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ ผมเห็นด้วยกับ British Medical Journal ว่าการทดสอบไม่ได้ทำอย่างตรงไปตรงมา ผลประสิทธิภาพที่อ้างว่า 90% ในความเป็นจริงเป็นเพียง 0.2% เท่านั้น ถ้าคุณทำการศึกษาผลลัพธ์(ของการวิจัย) ผมสงสัยว่าทำไม บิล เกตส์ และผู้ก่อการร้ายสมคบคิดของเขาจึงใช้เงินหลายพันล้านเพื่อพัฒนาวัคซีนที่สามารถ ทำหมันชาย หญิง และแม้กระทั่งลูกในครรภ์ของพวกเขา
มาตรการการบังคับ มาตรการทางการแพทย์ผิดหลักจรรยาบรรณ และต้องห้ามนำไปใช้กับประชากรที่ไม่มีที่พึ่งได้ ทั้งการตรวจและการให้วัคซีนการแทรกแซงทางการแพทย์ การทดสอบ การรักษา หรือวัคซีนใดๆ สามารถทำได้ในแนวทางที่มีจริยธรรมและถูกกฎหมาย โดยพิจารณาทางการแพทย์ของแต่ละคนเท่านั้น ความยินยอมของผู้ป่วยหลังจากได้รับข้อมูลที่ได้รับแจ้งเป็นอย่างดีและหลักฐานทางการวิจัยของการไม่เป็นอันตรายโดยไม่ต้องสงสัย ขอบคุณครับ.
ผมชื่อ มิเกล นอร์ดฟอร์ส ผมเป็นแพทย์จากสวีเดน ผมกำลังทำงานกับการแพทย์บูรณาการ ไม่มีโรคระบาดใหญ่และวัคซีนก็ไม่ปลอดภัยและไม่มีประสิทธิภาพ และการให้วัคซีนที่ยังไม่ทดลองแก่มนุษยชาติทั้งหมด และใช้เป็นหนูทดลองนั้นเป็นเรื่องบ้าที่สุด และไม่มีอะไรอีก ผมหมายถึง..หยุดมันเดี๋ยวนี้ และสิ่งที่บ้ามากกว่านั้นคือการที่จะมอบให้กับเด็ก ๆ ทั้งๆที่ (แทบ) ไม่เด็กป่วยจากโควิด 19 ยังไม่มีใครที่อายุต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิตในประเทศของผม นั่น (วัคซีน) มีแต่เพียงผลข้างเคียง ความเสี่ยงและต้นทุนเท่านั้น และนั่นคือการเสียเงินและการสูญเสียชีวิตมนุษย์และความปลอดภัย หยุดมันเดี๋ยวนี้ และผมยังท่าทายว่าจะไม่มีวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเท่ากับวิตามินดีที่สามารถลดอัตราการตายได้ระหว่าง 50 ถึง 95% ขึ้นอยู่กับระดับของวิตามินดีที่คุณมีในคุณ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ Elke F. de Klerk. ดิฉันเป็นแพทย์จากเนเธอร์แลนด์ ดิฉันทำการศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนแล้ว และดิฉันต้องการบอกคุณสามอย่าง อย่างแรกเลย วัคซีนนี้สามารถทำหมันสตรีและเด็กผู้หญิงได้ ประการที่สอง วัคซีนนี้อาจทำให้เกิดการรบกวนของไวรัสในการเตรียม ฟังไม่ออก และอาจทำให้เกิดพายุไซโตไคน์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมากสำหรับผู้คน สิ่งนี้พบได้ในมนุษย์และสัตว์ในการทดสอบวัคซีนโคโรน่าไวรัสอื่นๆ และประการที่สาม วัคซีนนี้สามารถเปลี่ยนพิมพ์เขียวทางพันธุกรรมของคุณ รหัสพันธุกรรมของคุณ DNA ของคุณแบบถาวร และเราไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะนำมาซึ่งอะไร ขอบคุณมากค่ะ แจ้งเตือนตัวเอง ป้องกันตัวเอง ปกป้องลูก ๆ ของคุณและทำการศึกษาหาข้อมูล
ขอขอบคุณครับ
คุณสามารถชมคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ของท่าน อาจารย์ ศาสตราจารย์ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ ผู้พิพากษา ทนาย นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ สื่ออิสระ นักวิจัย นักเขียน ที่ออกมาเตือนอย่างพร้อมเพรียงกัน ว่า วัคซีน ไม่ปลอดภัย ทั้งหมดได้ที่นี้ รวมถึงคลิปของ ท่าน ศาสตราจารย์ ดร. สุจริต ภักดี
เราทราบครับว่าคุณอาจได้อ่านข้อมูลจากผู้ที่พยายามทำให้ชื่อเสียงอาจารย์ เสื่อมเสีย ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการเซนเซอร์ที่ใช้หลักการทางจิตวิทยาให้เสียงของผู้รู้ความลับไปไม่ถึงประชาชน แต่ ศาสตราจารย์ ดร. สุจริต เป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งในเยอร์มัน และ อันดับต้นๆ ของโลก ในสาขาวิชานี้ ท่านเป็นครูที่สอนผู้คนทั้งหลายให้กลายเป็นแพทย์ได้ การเอาคำพูดมาบิดเบียนแล้วประจารท่านในที่สาธารณะ เป็นการไม่ให้เกียรติท่าน ทุกคนมีความสามารถในการคิด ใครก็ตามที่ได้ดูคลิปเต็มของท่าน สามารถคิดได้เองว่าสิ่งที่ท่านแสดงความกังวลนั้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และ ควรให้ความสำคัญหรือไม่
ท่านเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของทีมนักวิทยาศาสต์ที่กำลังทำงานร่วมกับ Corona Investigative Committee ที่มี Dr. Reiner Fuellmich และทนายท่านอื่นๆ ที่รวบรวมหลักฐานฟ้อง WHO, FDA รัฐบาล และ แพทย์ต่างๆ ทั่วโลกที่ พลักดัน ยาฉีดทดลองนี้ ให้กับผู้คนในข้อหาผิดกฏ The Nuremberg Code (ปี 1947) ซึ่งประกอบด้วยหลักการสำคัญ 10 ข้อ ดังนี้ เราคัดลอกข้อแรกมาแสดงไว้ที่นี้:
ความยินยอมด้วยความสมัครใจของผู้รับการทดลองเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดซึ่งหมายความว่าผู้ให้การยินยอมต้องสามารถให้การยินยอมได้ตามกฎหมาย อยู่ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจได้อย่างอิสระ โดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ ทั้งโดยการใช้กำลัง การฉ้อโกง การหลอกลวง การข่มขู่ การเอาเปรียบหรือการบังคับขู่เข็ญทางอ้อม และต้องมีความรู้และความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆ อย่างเพียงพอจนสามารถตัดสินใจโดยความเข้าใจอย่างรู้แจ้ง โดยผู้เข้าร่วมวิจัย ควรได้ทราบถึงระยะเวลา วัตถุประสงค์ของการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย ปัญหาและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบต่อสุขภาพหรือบุคคลที่อาจเกิดจากการเข้าร่วมการวิจัย ก่อนการตัดสินใจตอบรับการเข้าร่วมการวิจัย หน้าที่ และความรับผิดชอบของการประกันคุณภาพของการยินยอม อยู่ที่บุคคลทุกคนที่ทำการริเริ่มอำนวยการหรือเกี่ยวข้องกับการทดลอง โดยเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบส่วนบุคคลซึ่งจะถ่ายโอนให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ต้องรับโทษมิได้
— ขอบคุณ จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์
ยาฉีดทดลองโควิด 19 นี้ไม่ใช่วัคซีน และไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นบริษัทเหล่ารี้ไม่ได้ออกแบบให้ ยาฉีดนี้ป้องกันการติด หรือแพร่เชื้อด้วยซ้ำ ไม่ว่าหมอโซเชียลจะออกมาพูดว่ามันปลอดภัยกี่ล้านครั้งก็ตาม สมองผู้คนอาจถูกล้างได้ แต่ความจริงเปลี่ยนไม่ได้ พวกเขาใช้กฏหมายฉุกเฉินในการเปลี่ยนสถานะของยาตัวนี้ จากสถานะ การทดลอง มาเป็นวัคซีน แต่ทางการแพทย์และวิทยาศาสต์ มันยังคงเป็นสถานะการทดลอง ซึ่งผู้คนกำลังถูกทดลอง โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมตามย่อหน้าก่อนหน้านี้
ผมบอกได้เลย บุคคลที่กำลังสนับสนุนให้ประชาชนฉีด และ อ้างว่า “วัคซีนปลอดภัย” ผมขอแจ้งให้ท่านทราบว่า บัดนี้มีทนายความหลายพันคน หรือ อาจเป็นหลักหมื่นคน (ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก รวมทั้งในไทย) กำลังเก็บข้อความที่ท่านเอาลงโซเชียลหรือ อินเตอร์เน็ตเป็นหลักฐาน
ทนายความไทยท่านใดที่ต้องการรับข้อมูลหลักฐานที่พิสูจน์ถึงการหลอกลวงที่กำลังเกิดขึ้นลองติดต่อ Dr. Reiner Fuellmich ได้โคยตรงที่นี้ครับ (เว็บไซต์เป็นภาษาเยอร์มัน ใข้ Chrome เปิดแล้วใช้ Google Translate) เท่าที่ผมรู้พวกท่านทำการบ้านในการเตรียมหลักฐานไว้แล้วและพวกท่านยินดีแชร์ คุณสามารถชมรายละเอียดในเบื่องต้นได้ในบทสำภาดษ์ Crime Against Humanity
ใครก็ตามที่ยังมีความกังวลแต่ถูกกดดัน ผมขอแนะนำให้ท่านลองศึกษากฏหมายสากล Nuremberg ดูครับ คุณจะได้ทราบถึงสิทธิของคุณ ไม่มีใครสามารถบีบบังคับให้รับสิ่งนี้เข้าตัวคุณได้
รวมถึงบางบริษัทที่กดดันพนักงาน…ทั้งที่พนักงานยังคงมีความกังวล
ณ วันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ยังหลับอยู่และไม่ทราบถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่จำนวนผู้คนที่ตื่นขึ้นแล้วกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันๆ อย่างรวดเร็ว และพวกเขาจะไม่ยอมเมื่อรู้ว่า พวกเขา ครอบครัว ลูกหลาน สามีภรรยา ของพวกเขาได้ถูกฉีดยาทดลองที่ นักวิทยาศาสต์ทั่วโลกกำลังกังวลว่าอาจก่อให้เกิด Auto-Immune Disease ในฤดูหนาว ซึ่งผู้คนจะโดนไวรัสทั่วไปทางธรรมชาติที่ปกติแล้วร้างกายรับมือได้สบายๆ
หาก/เมื่อผู้คนเสียชีวิตลง พวกที่สร้าง (หรือพลักดัน) เรื่องหลอกลวงครั้งนี้ ก็จะโทษไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ผ่านสื่อหลักที่พวกเขาเป็นเจ้าของ
ที่มา: บทสัมภาษณ์ของ นักวิทยาศาสต์ แพทย์ ทนาย และผู้เชี่ยวชาญผู้ทรงเกียรติและที่พึงพาของชาวโลกทั้งหลาย
หมายเหตุ: ทุกข้อมูล/คำเขียนในบทความนี้สามารถหาใด้ในบทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ เราไม่ได้เป็นผู้ให้ความคิดส่วนตัว สิ่งเดียวที่เราแสดงข้อมูลให้เห็นในบทความนี้ คือการคำนวน ตัวเลข 0.3% ซึ่งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ระบุที่มาไว้แล้วเช่นกัน
ผู้คนกำลังตื่นขึ้นทั่วโลก… อย่างรวดเร็ว
- ยาฉีดไฟเซอร์ที่เอามาฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปียังอยู่ระหว่างการทดลองไม่สามารถกันการติดเชื้อได้ไม่มีข้อมูลว่ากัน MIS-C ได้
- คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง จากผู้สร้าง mRNA
- ข้อเท็จจริง mRNA – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
- Pandemic Baby – เด็กยุคใหม่ที่ คุณพ่อ คุณแม่ฉีด mRNA วัคซีน
- David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก
[…] คนอายุน้อยกว่า 49 มีอัตราการเสียชีวิ… ซึ่งน้อยกว่า ไข้หวัดใหญ่ 14.7 […]